การ Onboarding พนักงานในยุค Remote Work และ Hybrid Working

ในยุคที่การทำงานแบบ Remote Work (ระยะไกล) และแบบ Hybrid (ผสมผสาน) กลายเป็นรูปแบบการทำงานที่ได้รับความนิยมมากขึ้น องค์กรต่างๆ ต้องเผชิญกับความท้าทายในการปรับกระบวนการ Onboarding ให้มีประสิทธิภาพในสภาพแวดล้อมการทำงานรูปแบบใหม่นี้ การต้อนรับและช่วยให้พนักงานใหม่ปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมองค์กร เรียนรู้งาน และสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานในสภาพแวดล้อมที่ไม่ได้พบหน้ากันโดยตรงนั้นเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างยิ่ง

บทความนี้จะนำเสนอกลยุทธ์ เทคนิค และแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการทำ Onboarding สำหรับพนักงานที่ทำงานทำงานจากที่บ้าน และแบบไฮบริด พร้อมช่วยแก้ไขความท้าทายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น

อ่านเพิ่มเติม: Onboarding คืออะไร: ความหมายและความสำคัญที่องค์กรควรทราบ

ความท้าทายของการทำ Onboarding แบบ Remote และ Hybrid

การทำ Onboarding ในรูปแบบระยะไกลและแบบไฮบริดมีความท้าทายหลายประการที่แตกต่างจากการ Onboarding แบบดั้งเดิมในออฟฟิศ

  1. การสร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร พนักงานที่ทำงานจากระยะไกลอาจรู้สึกโดดเดี่ยวและมีความยากลำบากในการเชื่อมต่อกับวัฒนธรรมองค์กร
  2. การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ ข้อจำกัดในการสื่อสารแบบไม่เป็นทางการที่มักเกิดขึ้นในสำนักงาน ทำให้การถ่ายทอดข้อมูลสำคัญและการตอบข้อสงสัยอาจเกิดความล่าช้า
  3. การส่งมอบอุปกรณ์และทรัพยากร การจัดเตรียมและส่งมอบอุปกรณ์ทำงาน เอกสารสำคัญ และทรัพยากรต่างๆ ให้พนักงานใหม่ที่ทำงานจากที่บ้าน
  4. การฝึกอบรมและการเรียนรู้ การสาธิตและการฝึกอบรมแบบตัวต่อตัวอาจทำได้ยากในสภาพแวดล้อมแบบ Remote Work
  5. การสร้างความสัมพันธ์กับทีม การพบปะและสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานและผู้จัดการที่เกิดขึ้นแบบธรรมชาติในสำนักงานเป็นสิ่งที่ท้าทายในการทำงานระยะไกล

อ่านเพิ่มเติม: ขั้นตอนการสร้างโปรแกรม Onboarding ที่ประสบความสำเร็จ

กลยุทธ์การทำ Remote Onboarding ที่มีประสิทธิภาพ

1. การวางแผนและเตรียมความพร้อมก่อนวันแรก (Pre-boarding)

Pre-boarding มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการ Onboarding แบบระยะไกล เพื่อสร้างความประทับใจแรกและลดความวิตกกังวลของพนักงานใหม่

  • ส่งอุปกรณ์ล่วงหน้า จัดส่งคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์สำนักงาน และชุดต้อนรับ (Welcome Kit) ให้ถึงบ้านพนักงานก่อนวันเริ่มงาน
  • ติดตั้งซอฟต์แวร์ที่จำเป็น ตั้งค่าบัญชีผู้ใช้ ติดตั้งโปรแกรมและแอปพลิเคชันที่จำเป็นทั้งหมดล่วงหน้า
  • ส่งข้อมูลเบื้องต้น แชร์เอกสารสำคัญ ปฏิทินการฝึกอบรม และข้อมูลเกี่ยวกับวัฒนธรรมองค์กรให้พนักงานได้อ่านก่อนวันแรก
  • สร้างกลุ่มติดต่อล่วงหน้า เพิ่มพนักงานใหม่ในแพลตฟอร์มการสื่อสารภายในองค์กร เช่น Slack หรือ Microsoft Teams เพื่อให้พวกเขาสามารถเริ่มทักทายทีมได้ก่อนวันแรก

2. สร้างโครงสร้างและตารางเวลาที่ชัดเจน

การมีโครงสร้างและตารางเวลาที่ชัดเจนช่วยให้พนักงานใหม่รู้สึกมั่นใจและมีทิศทางในช่วงเริ่มต้น

  • กำหนดตารางการ Onboarding ที่ชัดเจน สร้างแผนการ Onboarding วันต่อวันและสัปดาห์ต่อสัปดาห์ที่ระบุกิจกรรม การประชุม และหัวข้อการเรียนรู้
  • ส่งปฏิทินนัดหมาย ส่งคำเชิญประชุมสำหรับกิจกรรมทั้งหมดในช่วง Onboarding ไปยังปฏิทินของพนักงานใหม่
  • สร้างแผนการเรียนรู้ 30-60-90 วัน กำหนดเป้าหมายและความคาดหวังที่ชัดเจนสำหรับช่วง 30, 60 และ 90 วันแรก
  • กำหนดช่วงเวลาพักและการทำงานอิสระ จัดสรรเวลาให้พนักงานใหม่ได้ประมวลผลข้อมูลใหม่และทำงานตามเป้าหมายของตนเอง

3. ใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือที่เหมาะสม

การเลือกใช้เทคโนโลยีและแพลตฟอร์มที่เหมาะสมเป็นกุญแจสำคัญในการทำ Remote Onboarding ที่มีประสิทธิภาพ

  • แพลตฟอร์มการประชุมวิดีโอ ใช้ Zoom, Microsoft Teams หรือ Google Meet สำหรับการประชุมเสมือนจริง
  • เครื่องมือการทำงานร่วมกัน ใช้ Google Workspace, Microsoft 365 หรือแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่ช่วยให้ทีมทำงานร่วมกันได้แบบเรียลไทม์
  • แพลตฟอร์มการสื่อสาร ใช้ Slack, Microsoft Teams หรือแพลตฟอร์มการส่งข้อความแบบทันทีสำหรับการสื่อสารประจำวัน
  • ระบบ LMS (Learning Management System) ใช้ระบบ LMS เพื่อจัดการคอร์สเรียนออนไลน์ และติดตามความก้าวหน้าของพนักงานใหม่

อ่านเพิ่มเติม: เทคโนโลยี LMS กับการยกระดับกระบวนการ Onboarding ในยุคดิจิทัล

Onboarding - LMS

4. สร้างประสบการณ์เสมือนจริง

พยายามจำลองประสบการณ์การทำงานในสำนักงานให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

  • การเยี่ยมชมสำนักงานเสมือนจริง ใช้ภาพถ่าย 360° หรือวิดีโอทัวร์สำนักงานเพื่อให้พนักงานรู้สึกคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมการทำงาน
  • กิจกรรมทีมเสมือนจริง จัดกิจกรรมสร้างทีมแบบออนไลน์ เช่น เกมส์ออนไลน์ การทานอาหารร่วมกันแบบเสมือน (Virtual Lunch) หรือกิจกรรมนันทนาการออนไลน์อื่นๆ
  • การแนะนำทีมแบบเสมือนจริง จัดให้มีการแนะนำตัวของสมาชิกในทีมผ่านวิดีโอคอลและนำเสนอบทบาทหน้าที่ของแต่ละคน

การสร้างความผูกพันและความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร

1. ระบบพี่เลี้ยง (Buddy System)

การจับคู่พนักงานใหม่กับพี่เลี้ยงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการช่วยให้พนักงานใหม่รู้สึกเชื่อมต่อและได้รับการสนับสนุน

  • จับคู่กับพี่เลี้ยงที่มีประสบการณ์ เลือกพนักงานที่มีประสบการณ์และมีทัศนคติเชิงบวกเพื่อเป็นพี่เลี้ยง
  • กำหนดตารางการพูดคุยประจำ จัดให้มีการพูดคุยแบบวิดีโอคอลระหว่างพนักงานใหม่กับพี่เลี้ยงเป็นประจำ
  • สร้างความไว้วางใจ ส่งเสริมให้พี่เลี้ยงสร้างบรรยากาศที่ปลอดภัยสำหรับการถามคำถามและแสดงความกังวล

2. การสร้างชุมชนออนไลน์

การสร้างชุมชนออนไลน์ช่วยให้พนักงานใหม่รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของทีมแม้จะทำงานจากระยะไกล

  • ช่องทางการสื่อสารเฉพาะ สร้างช่องทาง Slack หรือ Teams เฉพาะสำหรับพนักงานใหม่เพื่อติดต่อกัน
  • กิจกรรมทางสังคมแบบเสมือนจริง จัดกิจกรรมออนไลน์ เช่น ชั่วโมงกาแฟ (Virtual Coffee Break), กิจกรรมหลังเลิกงาน (Virtual Happy Hour) หรือ เกมส์ออนไลน์
  • กลุ่มตามความสนใจ แนะนำพนักงานใหม่ให้เข้าร่วมกลุ่มตามความสนใจต่างๆ ในองค์กร เช่น กลุ่มกีฬา กลุ่มอ่านหนังสือ หรือกลุ่มทำอาหาร

3. การสื่อสารแบบเปิดและต่อเนื่อง

การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความผูกพันในสภาพแวดล้อมการทำงานแบบระยะไกล

  • การประชุมติดตามสม่ำเสมอ จัดให้มีการประชุมแบบตัวต่อตัวกับผู้จัดการเป็นประจำ
  • ช่องทางรับข้อเสนอแนะ สร้างช่องทางให้พนักงานใหม่สามารถแสดงความคิดเห็นและให้ข้อเสนอแนะได้
  • การสื่อสารจากผู้บริหาร จัดให้มีการพูดคุยระหว่างพนักงานใหม่กับผู้บริหารระดับสูงเพื่อถ่ายทอดวิสัยทัศน์และค่านิยมขององค์กร

แนวทางการทำ Hybrid Onboarding

การทำ Onboarding แบบไฮบริดมีความซับซ้อนมากกว่าเนื่องจากต้องรองรับทั้งพนักงานที่ทำงานในสำนักงานและทำงานจากระยะไกล

1. สร้างความเท่าเทียมในประสบการณ์

  • การประชุมแบบไฮบริด ออกแบบการประชุมให้ทั้งพนักงานที่อยู่ในสำนักงานและที่ทำงานจากระยะไกลสามารถมีส่วนร่วมได้อย่างเท่าเทียม
  • เอกสารและทรัพยากรดิจิทัล ทำให้แน่ใจว่าเอกสารและทรัพยากรทั้งหมดอยู่ในรูปแบบดิจิทัลที่เข้าถึงได้ง่ายสำหรับทุกคน
  • การฝึกอบรมที่ยืดหยุ่น ออกแบบการฝึกอบรมที่สามารถเข้าร่วมได้ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์

2. จัดกิจกรรมในสำนักงานอย่างมีประสิทธิภาพ

  • วันพบปะทีม จัดให้มีวันพิเศษที่ทุกคนมาทำงานที่สำนักงานเพื่อพบปะและทำกิจกรรมร่วมกัน
  • การเยี่ยมชมสำนักงาน จัดให้มีทัวร์สำนักงานสำหรับพนักงานใหม่เพื่อแนะนำพื้นที่ทำงาน สิ่งอำนวยความสะดวก และทีมงาน
  • การฝึกอบรมเฉพาะทาง จัดกิจกรรมฝึกอบรมที่ต้องทำแบบตัวต่อตัวในวันที่พนักงานอยู่ที่สำนักงาน

3. ใช้เทคโนโลยีเพื่อเชื่อมโยงประสบการณ์

  • อุปกรณ์การประชุมแบบไฮบริด ลงทุนในอุปกรณ์การประชุมทางไกลที่มีคุณภาพสูง เช่น กล้อง ไมโครโฟน และลำโพงที่ออกแบบมาสำหรับห้องประชุมแบบไฮบริด
  • แพลตฟอร์มความร่วมมือ ใช้แพลตฟอร์มที่ช่วยให้ทีมสามารถทำงานร่วมกันได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน
  • เครื่องมือจำลองการทำงานในสำนักงาน ใช้แอปพลิเคชันที่จำลองสภาพแวดล้อมสำนักงานเสมือนจริง เช่น Gather.town

remote and hybrid onboarding - gather town

Image : Gather.town

เทคนิคการวัดผลความสำเร็จของ Remote และ Hybrid Onboarding

การวัดผลความสำเร็จของการ Onboarding แบบระยะไกลและแบบไฮบริดมีความสำคัญเพื่อการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

1. การวัดผลเชิงปริมาณ

  • อัตราการลาออกในช่วงแรก ติดตามอัตราการลาออกของพนักงานในช่วง 90 วันแรก
  • เวลาในการปรับตัว วัดระยะเวลาที่พนักงานใหม่ใช้ในการเริ่มทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • อัตราการเข้าร่วมกิจกรรม ติดตามการเข้าร่วมกิจกรรมและการฝึกอบรมต่างๆ ในช่วง Onboarding
  • คะแนนความพึงพอใจ สำรวจความพึงพอใจของพนักงานใหม่ต่อกระบวนการ Onboarding

2. การวัดผลเชิงคุณภาพ

  • ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ รวบรวมความคิดเห็นจากพนักงานใหม่ผ่านการสัมภาษณ์และแบบสอบถาม
  • ความเข้าใจในวัฒนธรรมองค์กร ประเมินว่าพนักงานใหม่เข้าใจค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กรมากน้อยเพียงใด
  • ความผูกพันกับทีม วัดระดับความผูกพันและความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานใหม่กับทีม

ความท้าทายและวิธีแก้ไขในการทำ Remote และ Hybrid Onboarding

1. การสร้างวัฒนธรรมองค์กรในสภาพแวดล้อมแบบกระจาย

ความท้าทาย พนักงานที่ทำงานจากระยะไกลอาจมีความยากลำบากในการรับรู้และเข้าใจวัฒนธรรมองค์กร

วิธีแก้ไข

  • สร้างคู่มือวัฒนธรรมองค์กรที่ชัดเจนและเข้าถึงได้ง่าย
  • จัดกิจกรรมแบ่งปันประสบการณ์และเรื่องราวที่สะท้อนค่านิยมขององค์กร
  • ให้ผู้บริหารและพนักงานอาวุโสแบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับวัฒนธรรมองค์กร

2. การป้องกันความรู้สึกโดดเดี่ยว

ความท้าทาย พนักงานที่ทำงานจากระยะไกลอาจรู้สึกโดดเดี่ยวและแยกตัวจากทีม

วิธีแก้ไข

  • จัดกิจกรรมสร้างทีมออนไลน์อย่างสม่ำเสมอ
  • สร้างพื้นที่สำหรับการพูดคุยแบบไม่เป็นทางการ
  • ส่งเสริมวัฒนธรรมการเปิดกล้องในการประชุมเพื่อเพิ่มความรู้สึกเชื่อมต่อ

3. การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ

ความท้าทาย การสื่อสารแบบไม่เป็นทางการและการสื่อสารที่ชัดเจนอาจเป็นเรื่องยากในสภาพแวดล้อมแบบระยะไกล

วิธีแก้ไข

  • กำหนดแนวทางการสื่อสารที่ชัดเจน เช่น เมื่อใดควรใช้อีเมล เมื่อใดควรใช้ข้อความทันที หรือเมื่อใดควรประชุมทางวิดีโอ
  • สร้างวัฒนธรรมการสื่อสารที่เปิดกว้างและโปร่งใส
  • ใช้เครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับการสื่อสารแต่ละประเภท

เทคโนโลยีและเครื่องมือล่าสุดสำหรับ Remote และ Hybrid Onboarding

เทคโนโลยีใหม่ๆ กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการทำ Onboarding ในยุคดิจิทัล

1. แพลตฟอร์ม Onboarding ดิจิทัล

แพลตฟอร์มเฉพาะทางสำหรับการ Onboarding ที่ช่วยจัดการและติดตามกระบวนการ Onboarding ทั้งหมด เช่น BambooHR, Workday Onboarding, หรือ Enboarder

2. เทคโนโลยี AR/VR

เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม (AR) และความเป็นจริงเสมือน (VR) สามารถสร้างประสบการณ์การฝึกอบรมแบบจำลองสถานการณ์ที่สมจริงและทัวร์สำนักงานเสมือนจริง

3. แพลตฟอร์มสำนักงานเสมือนจริง

แพลตฟอร์มเช่น Gather.town, Teamflow หรือ WorkAdventure ที่จำลองสภาพแวดล้อมสำนักงานในรูปแบบดิจิทัลเพื่อส่งเสริมการปฏิสัมพันธ์แบบไม่เป็นทางการ

4. ระบบอัตโนมัติและ AI

การใช้ระบบอัตโนมัติและปัญญาประดิษฐ์ในการจัดการงานที่ซ้ำซ้อน เช่น การกรอกแบบฟอร์ม การจัดตารางการฝึกอบรม และการตอบคำถามทั่วไป

บทบาทของผู้จัดการและ HR ในการ Remote และ Hybrid Onboarding

บทบาทของ HR

  • การวางแผนและออกแบบโปรแกรม HR มีหน้าที่หลักในการออกแบบและวางแผนกระบวนการ Onboarding ทั้งหมด
  • การจัดเตรียมเอกสารและทรัพยากร จัดเตรียมคู่มือพนักงาน เอกสารสำคัญ และทรัพยากรการเรียนรู้ในรูปแบบดิจิทัล
  • การประสานงานระหว่างฝ่ายต่างๆ ประสานงานกับฝ่าย IT, ฝ่ายบริหาร และหัวหน้าทีมเพื่อให้แน่ใจว่าทุกส่วนของกระบวนการ Onboarding ทำงานสอดคล้องกัน
  • การติดตามและประเมินผล ติดตามความก้าวหน้าของพนักงานใหม่และเก็บข้อมูลเพื่อการปรับปรุงกระบวนการในอนาคต

บทบาทของผู้จัดการ

  • การสร้างความสัมพันธ์ ผู้จัดการมีบทบาทสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์กับพนักงานใหม่ตั้งแต่เริ่มต้น
  • การให้คำแนะนำและข้อมูลป้อนกลับ จัดการประชุมติดตามผลเป็นประจำและให้ข้อมูลป้อนกลับที่สร้างสรรค์
  • การมอบหมายงานที่เหมาะสม จัดสรรงานที่ท้าทายและมีความหมายที่เหมาะกับระดับทักษะของพนักงานใหม่
  • การเชื่อมต่อกับทีม ช่วยให้พนักงานใหม่เชื่อมต่อกับสมาชิกในทีมและแผนกอื่นๆ

สรุป

การทำ Onboarding พนักงานในยุค Remote และ Hybrid Working ต้องอาศัยกลยุทธ์ที่เหมาะสม การใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด และความใส่ใจในการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับพนักงานใหม่ แม้จะมีความท้าทายในการสร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรและการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ แต่องค์กรสามารถใช้ความท้าทายเหล่านี้เป็นโอกาสในการพัฒนาวิธีการทำงานและการต้อนรับพนักงานใหม่ในรูปแบบที่ยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การลงทุนในการสร้างโปรแกรม Onboarding ที่มีประสิทธิภาพสำหรับพนักงานที่ทำงานระยะไกลและแบบไฮบริดไม่เพียงแต่ช่วยให้พนักงานใหม่ปรับตัวได้เร็วขึ้น แต่ยังส่งผลดีต่อการรักษาพนักงาน ความผูกพันกับองค์กร และผลิตภาพโดยรวมขององค์กรอีกด้วย


บทความที่เกี่ยวข้องในซีรีส์ Onboarding

อยากทำเว็บไซต์ธุรกิจที่ช่วยสร้างยอดขายได้จริง ปรึกษา WOW ฟรีที่นี่

รับบทความใหม่ ไปอ่านก่อนใครไหม?

ทำธุรกิจออนไลน์ด้วยความรู้อัปเดต เข้าใจง่าย ได้ยอดขายดีจริงๆ กันดีกว่า!

บทความน่าอ่านในหมวดเดียวกัน

online-learning-drm-solutions
e-Learning

DRM (การจัดการสิทธิ์ดิจิทัล) ในระบบการเรียนการสอนออนไลน์

DRM (การจัดการสิทธิ์ดิจิทัล) ในระบบการเรียนการสอนออนไลน์ การจัดการสิทธิ์ดิจิทัล (Digital Rights Management – DRM) เป็นเทคโนโลยีที่มีบทบาทสำคัญในการควบคุมการเข้าถึงและการกระจายเนื้อหาดิจิทัล เช่น หนังสืออิเล็กทรอนิกส์, วิดีโอ, และเพลง เพื่อป้องกันการใช้งานที่ไม่ได้รับอนุญาต ในยุคที่เนื้อหาดิจิทัลสามารถถูกคัดลอกและแชร์ได้อย่างง่ายดาย การใช้ DRM จึงมีความสำคัญมากขึ้นเพื่อรักษาสิทธิ์และผลประโยชน์ของผู้สร้างเนื้อหา รวมถึงการสร้างรายได้ที่ยั่งยืน ความหมายของ DRM DRM คือการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อป้องกันและควบคุมการใช้งานเนื้อหาดิจิทัล โดยการจำกัดการคัดลอก,

Management

Work From Home แบบคูลๆ! 9 ทิปส์ใช้ Zoom วิดีโอคอล ได้คล่องและสนุก!

สำหรับคนที่ทำงานที่บ้านหรือ Work From Home ไม่ว่าจะทำเป็นประจำอยู่แล้วหรือต้องปรับโหมดมาทำงานที่บ้านด้วยสภาวะจำเป็น เช่น หลีกเลี่ยงโรคระบาด เกิดเหตุจลาจล น้ำท่วม ฯลฯ  วิธี “ประชุมทางวิดีโอ” หรือ วิดีโอคอล ก็มักเป็นหนึ่งในสิ่งที่ได้รับการหยิบยกมาใช้กัน หลายบริษัทมักใช้โปรแกรม วิดีโอคอล กันเป็นปกติอยู่แล้ว แต่โปรแกรมที่เป็นที่พูดถึงในแวดวงคนทำงานอย่างมากในช่วงเวลานี้คือ Zoom (ซูม) เหตุผลหลักที่คนให้ความสนใจพูดถึงและเลือกใช้ Zoom กันมากเป็นพิเศษเป็นเพราะ Zoom