Landing page เป็นส่วนประกอบสำคัญของเว็บไซต์ เพราะคนใช้งานอินเตอร์เน็ตจะมาเจอเว็บไซต์ของเราผ่านหน้าเว็บเพจนี้ ด้วยเหตุนี้ ถ้าเรา สร้าง Landing page หรือปรับปรุงให้ดี ก็จะสามารถ
- เพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์ (Traffic)
- อัตราการซื้อขายผ่านหน้าเว็บ (Conversion rate)
Landing page ส่วนใหญ่จะเน้นการซื้อขายผ่านหน้าเว็บเพจด้วย ซึ่งนั่นหมายความว่า การปรับปรุงหน้าเว็บต้องอ้างอิงกับกลุ่มเป้าหมายของเว็บไซต์ WOW มีเคล็ดลับน่าสนใจในการ สร้าง Landing Page ที่ทำให้คนอยากคลิก เข้ามาอ่านแล้วเข้าใจ จนเกิดแอคชั่นกับหน้าเว็บจริงๆ มาฝาก
ก่อนอื่น.. Landing Page คืออะไร?
Landing Page คือ หน้าเว็บเพจที่ผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตค้นหาบางอย่างในระบบค้นหา (Search Engine) หรือ โซเชียลมีเดีย แล้วมาเจอลิงค์หน้าเว็บเพจของเราและคลิกเข้ามา ตัวอย่างสถานการณ์ที่พาให้ไปเจอกับหน้า Landing page เช่น
ลิงค์หน้าเว็บเพจที่ผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตค้นหาเจอ เป็นหน้าที่ผู้ทำเว็บไซต์อยากจะปรับแก้ให้กระตุ้นให้ผู้ใช้เว็บไซต์กระทำบางอย่างที่ต้องการ เช่น ซื้อสินค้า ลงทะเบียนรับข่าวสาร หรือคลิกเพื่อเข้าไปสู่หน้าเว็บเพจอื่นๆ
Product page กับ Landing page เหมือนกันไหม?
หน้าสินค้าหรือ Product page กับหน้า Landing page คือหน้าเดียวกันหรือเปล่า? ทั้งสองหน้ามีเป้าหมายต่างกัน หน้า Product page หรือเว็บเพจทั่วไป มีเป้าหมายหลักเพื่อให้ข้อมูล เช่น สินค้าหรือบริการ กับผู้ใช้งาน เป็นเนื้อหาทั่วไปที่ต้องการเข้าถึงคนจำนวนมาก
เนื้อหาในหน้า Product page จึงควรนำเสนอแบรนด์ ให้ความรู้กับผู้อ่าน และมีลิงค์ภายในเว็บเดียวกันเพื่อให้ผู้ที่เข้ามาสามารถไปยังเนื้อหาที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ได้
ส่วน Landing page ถูกออกแบบมาเพื่อเป้าหมายการตลาดโดยเฉพาะ และมีเป้าหมายเดียว เช่น ทำให้คนเข้ามาในหน้าเว็บแล้วกระทำบางอย่าง เช่น คลิกซื้อสินค้า กรอกข้อมูลติดต่อ ฯลฯ
Landing page จะมีเป้าหมายได้หลายอย่างก็ได้ แต่ไม่ให้ผลดีเท่ามีเป้าหมายแค่หนึ่งเดียว ผลสำรวจจากบริษัทด้านการตลาดออนไลน์ wishpond เผยว่า Landing page ที่นำเสนอหรือชี้นำผู้ใช้งานหน้าเว็บมากกว่า 1 เรื่อง จะได้ลีดลูกค้าน้อยกว่า Landing page ที่มีจุดประสงค์เดียวถึง 266%¹
อ่าน: กระแสเงินสดสำคัญ! 5 วิธี กระตุ้นสภาพคล่องธุรกิจ ที่เจ้าของกิจการควรปั๊มตอนนี้!
5 อีเมลขายของ ที่น่าคลิกอ่าน จากลูกค้าครั้งแรกเป็นลูกค้าประจำ..คุณสร้างได้!
6 เรื่องที่คน สร้าง Landing page ต้องใส่เข้าไป
1. จุดประสงค์หลักที่โดดเด่น
จุดประสงค์หลักหรือ Focus เป็นสิ่งที่ต้องมีใน Landing pageควรจะมีแค่อย่างเดียว ซึ่งจุดประสงค์นี้ต้องทำออกมาเป็นภาพหรือคำพูดให้ชัดเจนหรือโดดเด่นด้วย
เช่น ถ้าทำ Landing page เพื่อขายของ ก็ต้องปรับแต่งหน้าเว็บให้ชี้นำผู้ใช้งานไปสู่การจ่ายเงินค่าสินค้าให้มากที่สุด ด้วยการสร้างปุ่ม “ใส่สินค้าลงตะกร้า” (หรือปุ่ม Call-To-Action) ให้เด่นกว่าสิ่งอื่น เช่น ตำแหน่งการวาง สีสัน ข้อความของปุ่ม CTA เป็นต้น
2. หัวข้อ
Landing pageต้องบอกถึงสินค้า บริการ หรือสิ่งที่อยากนำเสนอให้ชัดตั้งแต่เริ่มต้น เพราะความสนใจของผู้ใช้งานจะอยู่แค่ไม่กี่วินาทีแรกเท่านั้น
ปรับหัวข้อ (Headline) และคำอธิบายสั้นๆ (Tagline) ให้สื่อสารออกมาอย่างชัดเจน ตรงเป้าหมายของสินค้า เช่น WeOnWeb เป็นบริษัท รับทำเว็บไซต์
หัวข้อหรือประเด็นสำคัญควรจะปรากฎอยู่ตรงหน้าตั้งแต่แรกๆ เพราะอีกสาเหตุหนึ่งคือ หากผู้ใช้งานไม่พบสิ่งที่ต้องการภายในช่วงเวลานี้ ก็มีแนวโน้มสูงมากที่จะปิดหน้าต่างเว็บหรือย้อนกลับไปหาเว็บอื่นที่ตอบโจทย์ได้ดีกว่านี้
3. ภาพประกอบ
ภาพประกอบมีส่วนอย่างมากในการจูงใจหรือกระตุ้นให้ผู้ที่เข้ามาในหน้า Landing page ไปยังหน้าอื่นๆ ในเว็บเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นสินค้าหรือบริการ ภาพประกอบช่วยให้ลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายเห็นภาพได้ชัดยิ่งขึ้น รู้ว่าจะซื้อหรือได้อะไรไป
ไอเดียภาพประกอบยอดนิยมคือ การใช้รูปคนใช้ผลิตภัณฑ์ที่ Landing page ขาย เป็นการชี้นำให้คนจินตนาการถึงตัวเองใช้งานผลิตภัณฑ์นั้นๆ
4. ช่องทางการชำระเงิน
ทุกวันนี้ Landing pageเพื่อการขาย ต้องมีระบบชำระเงินในตัวและรองรับวิธีชำระเงินหลายประเภทด้วย เพราะมีผลสำรวจของ Yoast พบว่า ผู้เข้ามาหน้า Landing page ถึง 60% เอาสินค้าใส่ตะกร้าแล้วไม่ดำเนินการชำระเงินต่อ เพราะหน้าเว็บไม่มีวิธีชำระเงินที่ต้องการ
ช่องทางการชำระเงิน จึงเป็นส่วนประกอบสำคัญบนหน้า Landing page เพื่อขาย ซึ่งนอกจากจะช่วยปิดการขายให้สมบูรณ์ เครื่องหมายวิธีการชำระเงิน เช่น โลโก้บัตรเครดิต ยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของร้านค้าและเว็บไซต์
5. รีวิวจากลูกค้า ประสบการณ์จริง
เคยเป็นกันไหมที่เราในฐานะลูกค้ากำลังเลือกดูสินค้าออนไลน์ และรู้สึกลังเลว่าจะซื้อดีหรือไม่ จึงไปค้นกูเกิลดูว่า คนที่เคยซื้อสินค้าหรือบริการนี้ไป เขามีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับของสิ่งนี้บ้าง?
การมองหารีวิวหรือ Social proof นับวันจะยิ่งเป็นเรื่องปกติ เมื่อผู้คนหันมาจับจ่ายใช้สอยทางออนไลน์มากขึ้น เป็นปรากฎการณ์ทางจิตวิทยาที่ผู้คนจะถือว่าการกระทำหรือสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนอื่น จะเป็นสิ่งที่มีแนวโน้มสูงที่จะเกิดขึ้นกับตัวเอง
ร้านค้าออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มขายของจึงมักใช้รีวิวลูกค้าจริง เปิดพื้นที่ให้แสดงความคิดเห็น ใส่รูปจากลูกค้า หรือให้คะแนน เป็นส่วนหนึ่งของการสร้าง Landing page ด้วย
อีกวิธีทำ Social proof แบบง่ายๆ คือ การแสดงตัวเลขการซื้อสินค้าหรือบริการนั้นๆ ว่ามีผู้ซื้อเท่าไหร่แล้ว ก็ใช้ได้เช่นกัน
6. ตราองค์กรชั้นนำรับรองเว็บไซต์
ตรารับรองคุณภาพหรือการมีอยู่ของเว็บไซต์ มีฟังก์ชั่นในตัวเอง เพียงแค่วางอยู่บนเว็บไซต์ก็ช่วยสร้างความเชื่อมั่นหรือความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานได้แล้ว ตราองค์กรแต่ละแบบจะมีระดับความน่าเชื่อถือแตกต่างกัน แต่ก็ดีกว่าไม่มีเลยแน่นอน
WOW ส่งท้าย
สรุปแล้ว การสร้าง Landing page ที่ดี ต้องแน่ใจว่า มีส่วนประกอบอย่างน้อย 6 อย่างนี้อยู่ใน Landing page ของคุณ ซึ่งดูเหมือนเป็นเรื่องทำง่าย แต่เว็บไซต์ของแต่ละมีโฟกัสต่างกัน
การทำ Landing page ที่ดีสำหรับเว็บไซต์ จึงต้องให้เวลาปรับแต่งและทดสอบว่าที่ปรับแต่งไป ได้ผลมากน้อยแค่ไหน และโอเคพอหรือยังที่คุณจะใช้เป็น Landing page
สำหรับผู้ต้องการเว็บไซต์เพื่อการขาย Landing page ขายของที่ดีและครบวงจรตั้งแต่เรียกลูกค้าไปจนถึงรับออเดอร์ เป็นผู้ช่วยขายของ 24 ชม. ให้กับคุณ ที่คุณจัดการได้เป็นของตัวเอง WOW รับทำเว็บ Sale page เว็บหน้าเดียวที่ช่วยผู้ประกอบการยุคใหม่ ราคาเริ่มต้นแค่ 990 บาท ไม่มีขั้นต่ำสัญญา ทดลองใช้ฟรี 7 วัน เพิ่มออเดอร์ สร้างกำไรให้ธุรกิจของคุณได้ง่ายๆ ปรึกษาก่อนทำได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย คลิกติดต่อเราโดยตรงได้ที่นี่เลย
อ้างอิง :