สำหรับคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้ WOW เชื่อว่าพวกคุณน่าจะมี ไอเดียธุรกิจ ที่ตั้งท่าว่าจะลงมือทำคนละไอเดียสองไอเดียแล้ว ทั้งที่หมายมั่นปั้นว่า จะใช้ไอเดียธุรกิจที่ตั้งใจทำเป็นงานหลัก หรืองานเสริมเพื่อเพิ่มพูนรายได้เข้ากระเป๋าอีกทาง
แต่ช่องว่างหรือความละล้าละลังที่อยู่ในความคิดที่มักพบคือ ความมั่นใจว่า ไอเดียธุรกิจที่คิดอยู่เป็นธุรกิจที่น่าสนใจ น่าลงทุนทั้งเวลาและเงินทองทำให้เป็นรูปร่าง จริงๆ หรือไม่?
หากคุณกำลังมีความรู้สึกนี้อยู่ หรือมีไอเดียธุรกิจลอยฟุ้งหลายอย่างอยู่ในหัวตอนนี้ WOW ได้รวบรวมคำถามน่าสนใจที่ควรค้นหาคำตอบก่อนเริ่มสร้างธุรกิจใหม่ทุกครั้ง
ไอเดียธุรกิจ 2564 ที่ดีที่สุด เกิดขึ้นได้จากอะไร
ไอเดียธุรกิจที่ดีไม่ใช่แค่ไอเดียธรรมดาๆ แต่เป็นการนำ “โอกาส + แผน” เมื่อสองสิ่งนี้รวมกันเข้าด้วยกันจะช่วยให้คุณสร้างธุรกิจที่เพิ่มฐานลูกค้าและรู้วิธีสร้างกำไรไปด้วยในเวลาเดียวกัน คำถามที่ควรถามตัวเองจึงได้แก่
1. คุณเป็นเจ้าของธุรกิจแบบไหน?
คนทุกคนมีจุดแข็ง จุดอ่อน และความสนใจแตกต่างกัน นี่คือสิ่งที่คุณควรรู้ เพราะรู้อะไรก็ไม่สู้รู้จักตัวเองก่อน
นอกจากนี้ ต้องรู้ด้วยว่าปัจจัยที่กระตุ้นให้คุณก้าวต่อไปข้างหน้าต่อได้ ตอนที่เจอช่วงเวลายากลำบากหรือเวลาที่รู้สึกมึนกับสถานการณ์และอารมณ์ของตัวเอง คืออะไร? ลองถามคำถามเหล่านี้กับตัวเองดู
- คุณมีความคิดเห็น ความเชี่ยวชาญ หรือเรื่องเล่าเกี่ยวกับสินค้า (หรือบริการ) ที่จะขาย ที่เจ๋งหรือน่าสนใจมากๆๆ (อารมณ์แบบเวลาพูดถึงแล้วมีแสงสว่างไสวไฟท่วมร่าง) อยู่ไหม?
- คุณมีทักษะเกี่ยวกับธุรกิจที่จะทำไหม? เช่น เป็นคนขายของให้ชาวบ้านเก่ง มีทักษะออกแบบที่ช่วยสร้างแบรนด์ให้น่าสนใจได้ หรือถ้าไม่เก่งอะไรเลย คุณพอรู้ว่าจะหาซื้อหรือจ้างคนเก่งๆ มาช่วยได้ไหม?
- คุณสามารถคิดคอนเทนต์ที่เพิ่มคนติดตามได้ไหม? ไม่ว่าจะเป็นช่องทาง Facebook, YouTube หรือแม้แต่อีเมล เพราะผู้ติดตามที่เป็นฐานเสียงเหล่านี้แหละ สำคัญกับการต่อยอดธุรกิจของคุณมาก
ทำการตลาดตรงกลุ่มเป้าหมายง่ายๆ เราเริ่มต้นให้ คุณสานต่อเองได้ด้วย
2. คุณขายของให้ใคร?
ใครที่จะซื้อสินค้าของคุณโดยที่แบรนด์ไม่ต้องทำการตลาดใส่หรือทำน้อยมาก? ใครที่ซื้อสินค้าประเภทนี้อยู่แล้ว? หรือลูกค้าตัดสินคุณภาพสินค้านี้จากอะไร? เป็นคำถามพื้นๆ ที่ช่วยอธิบายภาพคร่าวๆ ของลูกค้าได้
เมื่อได้ข้อมูลคร่าวๆ ก็มาเจาะลึกทำความรู้จักลูกค้าต่อ ด้วยวิธีการต่างๆ เช่น
- วิเคราะห์คู่แข่งของธุรกิจ
- ศึกษาแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ เช่น Facebook, Shopee, Lazada หรือที่ๆ สินค้าแบบของคุณไปวางขายอยู่และวางแผนว่า คุณจะนำเสนอสินค้าของคุณให้ลูกค้าได้อย่างไร
- สอบถามลูกค้าจริง เพื่อเรียนรู้ความต้องการ ความชอบ และความไม่ชอบของพวกเขา
- สำรวจกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ในชุมชนออนไลน์ต่างๆ เช่น กลุ่มใน Facebook, หมวดหมู่ในเว็บกระทู้ Pantip หรือแฮชแท็กทวิตเตอร์ด้วย ซึ่งส่วนมากคนพวกนี้คือลูกค้าหรือคนที่มีแนวโน้มเป็นลูกค้าได้มากที่สุด
- ศึกษาแนวโน้มแวดวงธุรกิจจากองค์กร หน่วยงาน หรือบริษัทศึกษาด้านสถิติที่เชื่อถือได้
- ติดตามคำค้นหาในระบบค้นหา เช่น Google ว่าตอนนี้ คนค้นหาอะไรอยู่ และค้นหาว่าอย่างไรบ้าง
ตัวอย่างเช่น บริษัทขายสกินแคร์ออแกนิกแห่งหนึ่งของประเทศ AA ขายครีมทาแก้ผิวหนังอักเสบ ข้อมูลที่พวกเขาพบและคิดว่าเป็นประโยชน์ คือ
- ข้อมูลจากสมาคมโรคผิวหนังแห่งประเทศ AA ระบุว่า ปัจจุบัน คน AA 5 ล้านคนเป็นโรคผิวหนังอักเสบ
- ข้อมูลการค้นหาคำค้นในประเทศผ่าน Google พบว่า คนค้นหาคำว่า ครีมทาแก้ผิวหนังอักเสบ เฉลี่ย 2,000 ครั้งต่อเดือน
- มีกลุ่มเพจ Facebook เกี่ยวกับโรคผิวหนังที่มี Engagement สูง ประมาณ 10 กลุ่ม มีสมาชิกรวมกัน 50,000 คน
ทำ SEO ไม่เป็น ไม่ต้องเสียเวลาเรียนนาน
ให้ WOW Online Marketing Service ช่วยดูแล
3. ไอเดียธุรกิจ ของคุณ มีแนวโน้มทำกำไรได้รึเปล่า?
ทำธุรกิจ คือ การสร้างเงินเพิ่ม เงินที่เพิ่มขึ้นมาคือผลกำไร คำถามคือ ไอเดียธุรกิจของคุณ มีแนวโน้มทำกำไรได้จริง และกำไรมากพอคุ้มค่ากับการลงทุนของคุณหรือไม่? ธุรกิจที่ดีคือธุรกิจที่คุณควรได้เงินจากลูกค้ามากกว่าเงินที่คุณเสียไป ซึ่งคำตอบนี้อยู่ที่ตัวเลข อาทิ
- จุดคุ้มทุน (Break-even point) คือ จำนวนสินค้าที่ขายแล้วสร้างรายได้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด
- อัตราการซื้อซ้ำ หมายถึง ลูกค้าคนหนึ่งมีแนวโน้มซื้อสินค้าของคุณซ้ำมากแค่ไหน
- มูลค่าที่ลูกค้าจะทำให้เราได้ (Customer lifetime value หรือ CLV) คือ กำไรที่เราจะได้มาจากลูกค้าสักคนหนึ่ง อยู่ที่กี่บาท
- ค่าทำการตลาดกับลูกค้าต่อคน หมายถึง คุณจะยอมจ่ายเงินเท่าไหร่เพื่อให้ได้ลูกค้า 1 คน ส่วนมากแล้ว ยิ่งค่า CLV สูง ค่าการตลาดต่อคนก็ยิ่งสูงตาม บางครั้งอาจถึงขั้นยอมขาดทุนในออเดอร์แรกๆ เลยด้วย
4. คุณมีวิธีเข้าถึงและขายของให้ลูกค้าซ้ำอีกรึเปล่า?
ธุรกิจที่ดีจะมีขั้นตอนการขายและการทำการตลาดที่สามารถทำได้ต่อไปเรื่อยๆ เพื่อหาลูกค้าใหม่เข้ามา บิลด์ความเชื่อมั่นให้คนที่กำลังจะเป็นลูกค้า และรักษาลูกค้าปัจจุบันเอาไว้ สิ่งที่คุณเจ้าของธุรกิจควรตั้งคำถาม เช่น
- กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของคุณค้นหาสินค้าที่คุณขายรึเปล่า? คุณสามารถศึกษาผ่านคำค้นได้ ด้วยเครื่องมือหาคีย์เวิร์ด เพื่อดูว่าคนค้นหาอะไรและมีจำนวนค้นหามากน้อยแค่ไหน มากพอที่เราจะลงทุนสร้างธุรกิจเพื่อจับความต้องการที่พบนี้ไหม
- มีพ่อค้าแม่ค้ารายย่อยสนใจซื้อสินค้าของคุณเพื่อไปขายต่อไหม? หรือพูดง่ายๆ ว่า คุณขายส่งสินค้าของคุณให้กับคนอื่นได้ไหม เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ซื้อและคุณที่เป็นเจ้าของธุรกิจเอง
- มีอินฟลูเอนเซอร์ เน็ตไอดอล หรือคนดังในโลกออนไลน์ ที่มีกลุ่มผู้ติดตาม ที่ก็เป็นกลุ่มลูกค้าของธุรกิจคุณหรือไม่? เพราะทุกวันนี้ คนดังทางออนไลน์คือช่องทางการโฆษณาสินค้าที่น่าเชื่อถือเป็นอันดับต้นๆ ทำให้ช่องทางนี้น่าสนใจกว่าการโฆษณาช่องทางอื่นๆ จนแบรนด์ธุรกิจจำนวนมากต่างพยายามจะเข้ามาร่วมงานด้วย เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าของตัวเอง
- คุณให้ส่วนลดหรือของฟรีเพื่อดึงดูดผู้คนผ่านทางอีเมลได้รึเปล่า? อีเมลมาร์เก็ตติ้ง คือ ช่องทางการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ธุรกิจลงทุนน้อยที่สุด แต่ได้ผลดีไม่แพ้ช่องทางอื่นเลย หรือแม้หากยังไม่ได้ผลตอนนี้ก็ช่วยหล่อเลี้ยงความสนใจของกลุ่มเป้าหมายให้อยู่ที่ธุรกิจของคุณได้
- สินค้าของคุณน่าถ่ายรูปลงสื่อโซเชียลไหม? เรื่องนี้สำคัญมากในยุคนี้ที่ผู้คนเสพสื่อโซเชียล ใช้ชีวิตอยู่ในนั้น การปรากฎของสินค้าของคุณในนั้นจึงเท่ากับการโฆษณาบอกต่ออย่างหนึ่ง ปัจจัยอะไรที่จะทำให้สินค้าของคุณน่าบอกต่อ ลักษณะภายนอก คุณภาพ หรือวิธีการใช้ สินค้าปัจจุบันนี้ต้องพัฒนาให้เกิดสิ่งนี้ขึ้นมาให้ได้หากต้องการที่จะขายอยู่บนโลกออนไลน์
WOW ส่งท้าย
การทำธุรกิจขึ้นมาใหม่ มีเรื่องให้ต้องคิดมากมาย WOW หวังว่าคำถามเหล่านี้จะช่วยเคลียร์ไอเดียธุรกิจของคุณให้กระจ่างชัดขึ้น จากที่คิดอยู่ว่าทำธุรกิจอะไรดี ออนไลน์ก็ขายได้ แล้วเอามาเจียระไนให้ได้ไอเดียที่ดีที่สุดเมื่อไอเดียผ่าน ตามแผนและเครื่องมือที่เหมาะ ซึ่งสิ่งที่คุณมั่นใจได้คือ ธุรกิจครั้งใหม่ของคุณมีจุดเริ่มต้นที่ดีและพร้อมรับกับสถานการณ์และโอกาสในวันข้างหน้าแน่นอน
WOW Sale Page เซลเพจเว็บหน้าเดียว ขายของ ทำการตลาด จ่ายเงิน รับออเดอร์ปิดการขายในหน้าเดียว มีทีมงานดูแลตลอดการใช้งานเว็บ