Content Pillar

Content Pillar คืออะไร ทำไมนักการตลาดต้องรู้

การทำธุรกิจในปัจจุบัน การมีตัวตนบน Social Media อาจไม่สำคัญเท่ากับการที่แบรนด์จะต้องคอยสื่อสารเพื่อให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายรู้จักแบรนด์และสินค้าของแบรนด์ผ่านการโพสต์คอนเทนต์ลงแพลตฟอร์ม ยิ่งมีแพลตฟอร์มมากและแต่แพลตฟอร์มก็มีรูปแบบการทำคอนเทนต์ที่ต่างกัน การโพสต์คอนเทนต์ให้มีประสิทธิภาพจึงต้องมีการวางแผนคอนเทนต์ หรือที่เรียกว่าการทำ Content Pillar กันก่อน

Content Pillar คืออะไร

Content Pillar คือหัวข้อหลักของเนื้อหาที่แบรนด์อยากนำเสนอให้กลุ่มเป้าหมายรับรู้ โดยการนำเสนอเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจและสินค้าของแบรนด์ตามวัตถุประสงค์แบรนด์วางเอาไส้ ช่วยให้ผู้ใช้รู้จักแบรนด์และเข้าใจว่าแบรนด์ขายสินค้าอะไร

Content Pillar มีกี่ประเภท

การแบ่งประเภท Content Pillar มีวิธีการแบ่งได้หลายรูปแบบ แต่ถ้าเรายึดตามรูปแบบคอนเทนต์ที่นำเสนอออกไปก็สามารถแบ่งได้ดังนี้

    1. Blog Post คือ การเขียนบทความโปรโมทสินค้า ซึ่งสามารถเขียนได้ทั้งบทความสั้นและบทความยาวเพื่ออธิบายวิธีการใช้งานสินค้าหรือบอกเล่าสรรพคุณพร้อมภาพสินค้าประกอบ
    2. Video ถือเป็นรูปแบบการนำเสนอที่หลายแบรนด์ใช้ เพราะด้วยรูปแบบการนำเสนอเป็นคลิปช่วยดึงความสนใจของผู้ชมได้ง่าย ลูกค้าสามารถฟังบรรยายวิธีการใช้และเห็นตัวอย่างการใช้สินค้าไปพร้อมกันได้เลย นอกจากนี้ Video ก็ยังเป็นรูปแบบการนำเสนอที่ Social Media ส่วนใหญ่รองรับการโพสต์ด้วย
    3. Infographic เป็นการนำเสนอข้อมูลแบบจบในหน้าเดียวที่เราเห็นได้ทั่วไป มีการนำข้อมูลที่เป็นข้อความ ตัวอักษร และตัวเลขมาใส่ พร้อมตกแต่งด้วยสีและภาพกราฟิกมาใช้ให้ข้อมูลมีความน่าสนใจ ดูแล้วสามารถเข้าใจรายละเอียดได้เลย
    4. Live เป็นการถ่ายทอดสดให้ผู้ชมได้ดูคอนเทนต์ที่แบรนด์นำเสนอได้ทันที และสามารถโต้ตอบกับแบรนด์ได้อีกด้วย การ Live จึงช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมได้เร็วและทำให้ลูกค้ารู้สึกสนิทกับแบรนด์มากขึ้น

 

Content Pillar มีประโยชน์อย่างไร

เพิ่มจำนวนการเข้าชมเว็บไซต์

การทำ Content Pillar ช่วยเพิ่ม Brand Awareness ให้ลูกค้ารู้จักแบรนด์ และเพิ่ม Traffic ของเว็บไซต์ในระยะยาวได้ เนื้อหาที่ผ่านการทำ Content Pillar จึงเหมาะที่จะนำไปใช้งานในระยะยาวได้นานกว่า ซึ่งลูกค้ายังสามารถย้อนกลับมาดูเนื้อหาใหม่ตั้งแต่ต้นเพื่อทำความเข้าใจสิ่งที่แบรนด์ต้องการเสนอในภาพรวมได้

เพิ่มเวลาการอยู่ในเว็บไซต์

เป้าหมายของเว็บไซต์คือการทำให้ผู้ใช้ที่เข้ามาในเว็บทำกิจกรรมอยู่ในเว็บให้ได้นานที่สุด เพราะการที่ผู้ใช้อยู่นานแสดงให้เห็นว่าเว็บมีคุณภาพ การทำ Content Pillar จะช่วยให้แบรนด์กำหนดได้ว่าจะทำคอนเทนต์อะไรที่จะช่วยดึงผู้ใช้ให้อยู่บนเว็บไซต์ได้นาน เช่น ทำคอนเทนต์อัปเดตกิจกรรมที่เกิดในงานอีเวนต์ หรือการเขียนบทความออกมาเป็นตอนเพื่ออธิบายเรื่องที่ได้รับความสนใจ ก็มีส่วนช่วยให้ผู้ใช้มีคอนเทนต์ให้ติดตามได้ต่อเนื่อง ช่วยเพิ่ม Conversion ให้กับเว็บด้วย

เว็บมีอันดับในหน้าผลการค้นหาสูงขึ้น

สิ่งที่ Google ชอบคือคอนเทนต์ที่มีคุณภาพและประโยชน์ต่อผู้ใช้ ยิ่งถ้าคอนเทนต์มีการใช้ Keyword ที่มียอดค้นหาสูงจะช่วยให้เว็บของเราติดอันดับสูงขึ้น การมี Content Pillar จะช่วยให้เราวางแผนออกแบบคอนเทนต์ที่มีเนื้อหาเฉพาะตามกลุ่มเป้าหมายของเราได้ และทำให้เว็บมีอันดับใน Google ที่สูงขึ้นด้วย

สร้างความน่าเชื่อถือให้ลูกค้า

การทำให้ลูกค้าเชื่อใจแบรนด์ของเรา แบรนด์จะต้องสร้างคอนเทนต์ที่มีประโยชน์ต่อผู้อ่านด้วย ไม่ใช่แค่หวังผลทางธุรกิจเท่านั้น การมี Content Pillar จะช่วยให้แบรนด์สามารถทำคอนเทนต์ตามหัวข้อที่ผู้อ่านอยากรู้และทันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ช่วยให้ผู้อ่านเชื่อใจและจดจำว่าหากต้องการติดตามคอนเทนต์หัวข้อนี้ก็สามารถติดตามผ่านช่องทางต่างๆ ของแบรนด์ได้

ขั้นตอนการสร้าง Content Pillar

    1. กำหนดเป้าหมายของธุรกิจ

การทำ Content Pillar เริ่มจากที่เราจะต้องกำหนดเป้าหมายของแบรนด์ว่าอยากสื่อสารอะไร เพื่อให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก เช่น อยากสื่อสารตัวตนของแบรนด์ คุณก็ต้องสร้างคอนเทนต์ที่ทำให้ผู้ชมรู้จักแบรนด์ หรือถ้าอยากโปรโมทสินค้าใหม่ ก็ต้องสร้างคอนเทนต์แนะนำสินค้า

2.วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย

เมื่อเราเลือกเป้าหมายแล้ว ก็มาถึงการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายที่แบรนด์อยากสื่อสารด้วย โดยเราจะต้องกำหนดลักษณะของลูกค้าให้ชัดเจน เช่น เพศอะไร อายุเท่าไหร่ มีรายได้เท่าไหร่ c]tมีความสนใจอะไรบ้าง เพื่อให้เรารู้ว่าลูกค้ากลุ่มดังกล่าวมีปัญหาอะไร และต้องการคอนเทนต์แบบไหนที่จะช่วยแก้ไขปัญหา

3.สำรวจคู่แข่งในธุรกิจเดียวกัน

เราจำเป็นต้องรู้จักคู่แข่งในธุรกิจที่มีขนาดใกล้เคียงและต่างกัน โดยพยายามศึกษาข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เรารู้จักเขามากที่สุด เช่น รูปแบบคอนเทนต์ ลักษณะของคอนเทนต์ ช่องทางการนำเสนอ และความถี่ของการโพสต์ ก็จะช่วยให้เราวิเคราะห์ Content Pillar ของคู่แข่ง และนำมาพัฒนา Content Pillar ของเราให้ดีกว่า

4.กำหนดหัวข้อ Content Pillar

ในขั้นต่อมาคือการเลือกหัวข้อที่อยากนำมาทำ Content Pillar ซึ่งจะต้องเกี่ยวข้องกับแบรนด์หรือสินค้าของเรา และยังเป็นหัวข้อที่ลูกค้าสนใจ

5.คิดรูปแบบการนำเสนอ

ถัดจากการคิดหัวข้อหลักแล้ว เราก็ต้องมาคิดต่อว่าจะนำเสนอคอนเทนต์ในรูปแบบไหนที่กลุ่มเป้าหมายของเราชอบและมีส่วนร่วมได้มาก เช่น บทความ ภาพกราฟิก วิดีโอ คลิปสั้น และที่ขาดไม่ได้คือการเลือก Social Media ที่จะนำคอนเทนต์ไปโพสต์ เพราะแต่ละแพลตฟอร์มมีรูปแบบคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมแตกต่างกัน

6.สร้าง Content Calendar เพื่อกำหนดวันและเวลาโพสต์

การลงคอนเทนต์ให้มีประสิทธิภาพ เราจำเป็นต้องสร้าง Content Calendar เพื่อกำหนดว่าเราจะลงคอนเทนต์วันไหน เวลาเท่าไหร่ และจะลงบนแพลตฟอร์มไหน ในแต่ละเดือน เพราะนอกจากจะช่วยจัดระเบียบคอนเทนต์ของเราแล้ว ยังช่วยให้กลุ่มเป้าหมายติดตามคอนเทนต์ของเราได้ตามตารางที่กำหนดไว้

7.ติดตามผลลัพธ์และนำข้อมูลมาวิเคราะห์

การทำคอนเทนต์จะต้องมีการวิเคราะห์ข้อมูลตามไปด้วยเสมอเพื่อดูว่ากลุ่มเป้าหมายมีการตอบรับคอนเทนต์คอนเทนต์นั้นๆ อย่างไร ตั้งแต่ยอดการเข้าถึง ยอดการมีส่วนร่วม ไปจนถึงความคิดเห็น โดยการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ที่ Social Media มีมาใช้วิเคราะห์และปรับปรุงเนื้อหาต่อไป

การทำ Content Pillar จึงเป็นกลยุทธ์ที่นักการตลาดต้องรู้จัก เพราะเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้แบรนด์รู้ว่าอยากจะสื่อสารอะไรออกไป และนำไปออกแบบคอนเทนต์ได้ตรงกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งการสร้างคอนเทนต์ที่ดีจะช่วยให้สร้างการจดจำให้ลูกค้าไปด้วย นำไปสู่ความต้องการในการใช้สินค้าต่อไป

Source : 1 2 3 4 5 

 

 

 

 

 

อยากทำเว็บไซต์ธุรกิจที่ช่วยสร้างยอดขายได้จริง ปรึกษา WOW ฟรีที่นี่

รับบทความใหม่ ไปอ่านก่อนใครไหม?

ทำธุรกิจออนไลน์ด้วยความรู้อัปเดต เข้าใจง่าย ได้ยอดขายดีจริงๆ กันดีกว่า!

บทความน่าอ่านในหมวดเดียวกัน

Uncategorized

The White Lotus Effect ธุรกิจทัวร์ Inbound เตรียมพร้อมรับคลื่นนักท่องเที่ยวหรือยัง

ปรากฏการณ์ “The White Lotus Season 3” โอกาสทองของธุรกิจทัวร์ Inbound ในไทย ตัวเลขที่น่าตื่นเต้น การค้นหาที่พักในเกาะสมุยเพิ่มขึ้นถึง 115% ภายในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์! นี่ไม่ใช่ตัวเลขที่เกิดขึ้นในช่วงไฮซีซั่นปกติ แต่เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทันทีหลังจากข่าวการถ่ายทำ “The White Lotus Season 3” ในประเทศไทยได้รับการยืนยัน “The White Lotus” ไม่ใช่เพียงซีรีส์ทั่วไป

อบรมพนักงานใหม่
Uncategorized

คู่มือเลือกระบบอบรมพนักงานใหม่ที่ใช่สำหรับองค์กรคุณ

ทุกองค์กรล้วนต้องการพนักงานที่มีทักษะพร้อม สามารถเข้ามาขับเคลื่อนองค์กรได้ทันที การฝึกอบรมพนักงานใหม่จึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่องค์กรมองข้ามไม่ได้ เพราะถือเป็นกระบวนการที่จะช่วยพัฒนาทักษะของพนักงาน และยังทำให้องค์กรมีประสิทธิภาพในการแข่งขันเพิ่มขึ้นอีกด้วย ยิ่งในปัจจุบัน องค์กรต้องปรับตัวให้ทันกับกระแส Digital Transformation ส่งผลให้การอบรมพนักงานเป็นกระบวนการที่องค์กรจะต้องพัฒนาให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ด้วยการนำ E-Learning เข้ามาใช้งาน E-Learning คืออะไร E-Learning คือการเรียนรู้เนื้อหาในรูปแบบออนไลน์ผ่านการนำเทคโนโลยีเข้ามาเป็นสื่อกลางช่วยเผยแพร่เนื้อหาจากผู้สอนไปหาผู้เรียน โดยที่ผู้สอนสามารถสร้างเนื้อหาการเรียนได้หลายรูปแบบ ยกตัวอย่างเช่น ไฟล์เอกสาร คลิปวิดีโอ คลิปเสียง และยังช่วยให้ผู้เรียนเข้ามาเรียนได้ตลอดเวลาตามความต้องการ การนำ E-Learning