อบรมพนักงานใหม่

คู่มือเลือกระบบอบรมพนักงานใหม่ที่ใช่สำหรับองค์กรคุณ

ทุกองค์กรล้วนต้องการพนักงานที่มีทักษะพร้อม สามารถเข้ามาขับเคลื่อนองค์กรได้ทันที การฝึกอบรมพนักงานใหม่จึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่องค์กรมองข้ามไม่ได้ เพราะถือเป็นกระบวนการที่จะช่วยพัฒนาทักษะของพนักงาน และยังทำให้องค์กรมีประสิทธิภาพในการแข่งขันเพิ่มขึ้นอีกด้วย ยิ่งในปัจจุบัน องค์กรต้องปรับตัวให้ทันกับกระแส Digital Transformation ส่งผลให้การอบรมพนักงานเป็นกระบวนการที่องค์กรจะต้องพัฒนาให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ด้วยการนำ E-Learning เข้ามาใช้งาน

E-Learning คืออะไร

E-Learning คือการเรียนรู้เนื้อหาในรูปแบบออนไลน์ผ่านการนำเทคโนโลยีเข้ามาเป็นสื่อกลางช่วยเผยแพร่เนื้อหาจากผู้สอนไปหาผู้เรียน โดยที่ผู้สอนสามารถสร้างเนื้อหาการเรียนได้หลายรูปแบบ ยกตัวอย่างเช่น ไฟล์เอกสาร คลิปวิดีโอ คลิปเสียง และยังช่วยให้ผู้เรียนเข้ามาเรียนได้ตลอดเวลาตามความต้องการ

การนำ E-Learning มาใช้ในการอบรมจะทำให้องค์กรได้ประโยชน์หลายอย่าง เริ่มจากการลดต้นทุน เพราะองค์กรสามารถเผยแพร่เนื้อหาผ่านแพลตฟอร์มที่เข้าถึงพนักงานทุกคนได้พร้อมกัน โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายจากการปรินต์เนื้อหาออกมาทำเป็นเอกสาร และถ้ามีเนื้อหาใหม่เข้ามาก็สามารถอัปเดตเพิ่มเข้าไปได้ทันที ไม่จำเป็นต้องจัดตารางอบรมพนักงานใหม่ที่จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก นอกจากนี้ก็ยังช่วยให้พนักงานประหยัดเวลา ไม่ต้องเดินทางมาที่บริษัทก็สามารถเข้าถึงหลักสูตรการอบรมได้ผ่านการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต 

นี่จึงเป็นประโยชน์ที่องค์กรและพนักงานได้รับจากการนำ E-Learning เข้ามาใช้ในการอบรม ยิ่งในปัจจุบัน เราจะเห็นว่ามีเทคโนโลยีการเรียนออนไลน์มีการพัฒนามากขึ้น โดยเฉพาะการจัดการเรียนการสอนที่มีการพัฒนาระบบขึ้นมาช่วยในการบริหารจัดการนั่นก็คือระบบ LMS  

อบรมพนักงานใหม่

LMS คืออะไร  LMS ย่อมาจาก Learning Management System คือระบบที่จะช่วยให้องค์กรและผู้สอนนำไปใช้จัดการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต และอบรมพนักงานใหม่ได้แบบครบวงจรโดยตรง พร้อมกับเครื่องมือที่ผู้สอนสามารถนำมาใช้สร้างหลักสูตรการเรียน การเผยแพร่ไปหาผู้เรียน และการติดตามผลการเรียนของผู้เรียนได้

ระบบ LMS มีประโยชน์ต่อการอบรมพนักงานอย่างไร

การนำ LMS เข้ามาใช้ในการอบรมพนักงานใหม่มีประโยชน์หลายด้าน ทั้งประโยชน์ต่อองค์กร, HR และพนักงาน ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

ประโยชน์ที่มีต่อองค์กร

การอบรมพนักงานใหม่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น

ระบบ LMS ช่วยให้พนักงานสามารถพัฒนาทักษะและความรู้ในการทำงานได้มากขึ้น ผ่านการอบรมบนระบบที่มีความยืดหยุ่น สามารถเข้าถึงเนื้อหาการอบรมได้ทุกที่ ทุกเวลา และรองรับการใช้งานบนอุปกรณ์ทุกชนิต ช่วยให้องค์กรไม่ต้องเสียเวลามาจัดตารางการอบรมใหม่ 

ลดต้นทุนการอบรมพนักงานใหม่

การอบรมแบบเดิมทำให้องค์กรต้องเสียค่าใช้จ่ายการอบรมพนักงานใหม่หลายอย่าง เช่น ค่าทำเอกสาร ค่าเช่าสถานที่ และค่าเดินทาง แต่การใช้ระบบ LMS จะช่วยให้องค์กรตัดค่าใช้จ่ายเหล่านี้ ด้วยการเผยแพร่เนื้อหาการอบรมผ่านระบบโดยตรง และอัปเดตได้ตลอดเวลา

ช่วยให้พนักงานมีส่วนร่วมในการอบรมมากขึ้น

เราอาจจะคุ้นเคยกับการเห็นภาพพนักงานนั่งอ่านเอกสารและฟังบรรยายไปด้วย หรือ Classroom Training ซึ่งเป็นวิธีอบรมแบบเดิมที่ทำให้พนักงานมีส่วนร่วมได้ไม่เต็มที่ เทียบเท่ากับการอบรมผ่านระบบ LMS ที่องค์กรสามารถออกแบบเนื้อหาการอบรมได้หลากหลายกว่า ทั้งการทำเป็นคลิปบรรยายและ Interactive Content รวมถึงการมีพื้นที่แชทให้พนักงานสื่อสารกันในระบบ ซึ่งจะช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมได้มากกว่า

ประโยชน์ที่มีต่อ HR

เพิ่มประสิทธิภาพการดูแลพนักงานใหม่

การดูแลพนักงานใหม่ หรือ Employee Onboarding เป็นอีกขั้นตอนที่จะช่วยสร้างความประทับใจให้กับพนักงานใหม่ เพราะถ้าพนักงานได้รับการดูแลที่ดีก็จะช่วยมีกำลังใจในการทำงาน และการนำระบบ LMS มาใช้จะช่วยให้ HR สามารถดูแลพนักงานได้ดีขึ้นตั้งแต่ก่อนเริ่มทำงาน ด้วยการส่งข้อมูลที่จำเป็นให้พนักงานได้รู้จักองค์กร บุคลากร และสภาพแวดล้อมในการทำงาน เพื่อให้พนักงานมีความพร้อมก่อนเริ่มทำงานมากที่สุดและปรับตัวได้เร็วขึ้น

เพิ่ม Productivity ในการอบรมพนักงาน

ระบบ LMS จะช่วยให้ HR สามารถกำหนดเนื้อหาการอบรมเพื่อพัฒนาทักษะของพนักงานทั้งองค์กร และยังเก็บผลลัพธ์การอบรมของพนักงานเป็นรายบุคคลมาปรับปรุงต่อได้ ช่วยให้การอบรมมีคุณภาพ พนักงานสามารถเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม

สามารถบริหารจัดการข้อมูลได้ง่ายขึ้น

อีกหนึ่งอุปสรรคที่ HR ต้องเจอก็คือความยากในการจัดการข้อมูลที่อยู่ต่างระบบ เพราะระบบแต่ละตัวมีวิธีการเข้าถึงและจัดการไม่เหมือนกัน แต่การนำระบบ LMS มาเชื่อมต่อกับระบบหลักจะเป็นการรวมทุกระบบให้เข้ามาเป็นระบบเดียวกันและใช้รหัสผ่านเพียงชุดเดียวก็สามารถล็อกอินเข้าใช้งานทุกระบบได้พร้อมกัน ทำให้การจัดการข้อมูลเป็นขั้นตอนที่ทำได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

ประโยชน์ที่มีต่อพนักงาน

เพิ่มโอกาสการเติบโตในอาชีพ

ข้อมูลจาก Zippia ระบุว่า มีพนักงานถึง 76% ที่อยากเห็นตัวเองเติบโตในสายงานต่อไป ซึ่งองค์กรสามารถช่วยให้พนักงานเติบโตต่อไปได้ด้วยการนำระบบ LMS มาใช้ ผ่านการนำข้อมูลด้านทักษะและเป้าหมายส่วนตัวของพนักงานมาออกแบบ Learning Path ให้พนักงานเป็นรายบุคคล ช่วยให้พนักงานสามารถพัฒนาตัวเองและเติบโตได้ตามเป้าหมายที่องค์กรวางเอาไว้

ช่วยให้พนักงานมีส่วนร่วมในการทำงานมากขึ้น

องค์กรที่มีระบบอบรมพนักงานใหม่ที่มีคุณภาพคือปัจจัยที่จะทำให้พนักงานอยากมีส่วนร่วมในการทำงานมากขึ้น เพราะเมื่อพวกเขารู้ว่าองค์กรให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะและเปิดโอกาสให้พัฒนา เหตุผลนี้จึงเป็นแรงผลักดันให้พนักงานมีความตั้งใจในการพัฒนาตัวเอง

ส่งเสริมการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง

ระบบ LMS ถือเป็นแหล่งความรู้ที่จะช่วยให้พนักงานเรียนรู้และพัฒนาทักษะของตัวเองได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด เพราะพนักงานสามารถเรียนเนื้อหาเดิมซ้ำเพื่อ Upskill หรือ Reskill เพื่อพัฒนาตัวเอง พร้อมกับมีฟึเจอร์ในการประเมินผลการเรียนที่จะบอกให้รู้ว่าพนักงานมีจุดแข็งและจุดอ่อนในเรื่องไหน เพื่อให้พนักงานนำไปเรียนรู้เพิ่มเติมได้

เราจะเห็นแล้วว่าการนำระบบ LMS มาใช้ในอบรมพนักงานใหม่ไม่ได้มีประโยชน์เฉพาะต่อตัวพนักงานเองอย่างเดียว แต่ยังช่วยให้องค์กรและ HR ลดค่าใช้จ่ายในการอบรม และเพิ่มประสิทธิภาพของการอบรม อีกทั้งยังเป็นการปรับตัวขององค์กรในการอบรมให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีอีกด้วย

การเรียนรู้ในยุคดิจิทัล

เทคโนโลยีมีความสำคัญต่อการเรียนรู้อย่างมาก เพราะสามารถยกระดับการเรียนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยระบบที่ถูกพัฒนาให้รองรับการสอนที่หลากหลาย และยังทำให้ผู้เรียนได้ประสบการณ์การเรียนที่แปลกใหม่

หากคุณเป็น HR ที่กำลังมองหาระบบอบรมพนักงานที่มีฟีเจอร์ครบครัน ใช้ง่าย ไม่ซับซ้อน เพื่อนำไปเพิ่มประสิทธิภาพการอบรมให้พนักงานทั้งองค์กร WOW LMS คือระบบบริหารการเรียนรู้ออนไลน์ที่องค์กรยุคใหม่เลือกใช้ เพราะมีฟีเจอร์มากมายที่จะช่วยให้ผู้เรียน ผู้สอน และผู้ดูแลระบบได้ประโยชน์

ผู้เรียนมีระบบการเรียนที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย

WOW LMS มี Dashboard ให้ผู้เรียนเห็นรายละเอียดการเรียนทั้งหมดในหน้าเดียว พร้อมกับมี Notifications คอยแจ้งเตือนผู้เรียนให้ไม่พลาดเมื่อมีเนื้อหาหรือกิจกรรมใหม่เพิ่มเข้ามา 

อบรมพนักงานใหม่

นอกจากนี้ ผู้เรียนยังสามารถใช้ WOW LMS ได้อย่างปลอดภัย ด้วยฟีเจอร์อย่าง 2-Factor Authentication ป้องกันการเข้าถึงบัญชีโดยไม่ได้รับอนุญาตจากการถูกนำรหัสผ่านไปใช้ และ Facial Recognition ที่นำ AI มายืนยันใบหน้าของผู้เรียน เพื่อป้องกันการโกงจากการสวมรอยเข้าเรียนและการคัดลอกเนื้อหาคอร์สออกจากระบบ

เรียนรู้บนระบบที่ทันสมัย

ปัจจุบันการเรียนรู้ไม่ได้หยุดอยู่แค่การดูคลิป แต่เนื้อหายังต้องมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน ซึ่ง WOW LMS รองรับการใช้งาน HTML5 Package (H5P) ให้ผู้สอนสร้างคอร์สที่เล่น Interactive Content ที่อยู่ในคลิประหว่างเรียนได้ เพื่อให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมกับเนื้อหาได้มากขึ้น แล้วถ้าผู้เรียนอยากกลับมาดูคลิปใหม่ก็ยังมี Video Controls Display แถบควบคุมที่ให้ผู้เรียนกดเล่น กดหยุด และปรับระดับเสียงได้ตามความต้องการ เพื่อให้ไม่พลาดเนื้อหาสำคัญ

นอกจากนี้ ผู้สอนยังสามารถสร้าง Quiz หลังเรียนได้หลายรูปแบบเพื่อประเมินความเข้าใจผู้เรียนในรูปแบบต่างๆ เช่น การเลือกคำตอบเดียว (Single Choice), การทำแบบประเมิน (Assesment) และการเขียนอธิบาย (Essay) 

ผู้สอนสร้างคอร์สง่าย ทำได้ไว

การสร้างคอร์สเรียนจะทำได้เร็วขึ้นด้วย Drag and Drop ให้ผู้สอนสามารถ “ลากและวาง” บทเรียน เพื่อจัดโครงสร้างคอร์สใหม่ ช่วยลดเวลาการจัดคอร์สที่มีเนื้อหามาก พร้อมกับมี Course Cloning ที่จะช่วยสร้างคอร์สใหม่ที่มีโครงสร้างเหมือนคอร์สเดิมให้เลย ไม่ต้องเสียเวลาสร้างใหม่ทั้งหมด

ส่วนผู้สอนที่อยากนำคลิปการเรียนเป็น Playlist มาสร้างเป็นบทเรียน WOW LMS ยังมีฟีเจอร์ Course Creation Wizard ช่วยให้ผู้สอนนำ Playlist ใน YouTube มาแปลงเป็นคลิปการเรียนได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาอัปโหลดคลิปแยกและตั้งชื่อใหม่
อบรมพนักงานใหม่

ผู้ดูแลระบบมีระบบที่จัดการง่าย ดูแลผู้ใช้ทุกคนได้ทั่วถึง

ผู้ดูแลระบบสามารถจัดการผู้เรียนด้วย Group Management รวมผู้เรียนที่มีคุณสมบัติเดียวกันเข้ามาเป็นกลุ่ม เช่น อยู่แผนกหรือสาขาเดียวกัน ช่วยให้ผู้เรียนในกลุ่มเข้าถึงเนื้อหาหรือกิจกรรมได้พร้อมกัน ไม่ต้องลงทะเบียนเรียนแยก และยังมี Group Leaders ให้ผู้ดูแลแต่งตั้งผู้เรียนในกลุ่มให้เป็น Leader ของกลุ่มเพื่อดูแลสมาชิกกลุ่ม เช่น Leader ดูแลกลุ่มผู้เรียนขนาดเล็กจากการแบ่งกลุ่ม และ Leader ดูแลกลุ่มพนักงานประจำสาขาหรือภูมิภาคในการอบรม  

ระบบ Reporting รายงานข้อมูลการสอนครบถ้วน

ผู้สอนสามารถเห็นข้อมูลการสอนได้ชัดเจนครบทุกอย่างด้วย Reports Overview Widget ที่จะแสดงจำนวนนักเรียน คอร์สที่สร้าง และงานที่มอบหมายทั้งหมด นอกจากนี้ยังสามารถรู้ความเคลื่อนไหวทั้งหมดของผู้เรียนที่ทำในหลักสูตรของผู้สอนผ่าน Activity Widget ที่จะแสดงข้อมูลให้เห็นแบบ Real time และละเอียดกว่าด้วย Report Filters Widget ให้ผู้สอนดูข้อมูลการสอนได้เฉพาะเจาะจงตาม Filter ที่เลือก แยกตามผู้เรียน คอร์สเรียน และกลุ่มผู้เรียน

อบรมพนักงาน

รองรับการ Integration กับระบบภายในและภายนอก

WOW LMS มี API Service ที่สามารถปรับแต่งให้ตรงกับตามความต้องการของลูกค้าได้ และรองรับการเชื่อมต่อระบบทั้งภายในและภายนอกองค์กร นอกจากนี้ WOW LMS ยังสามารถเชื่อมต่อระบบเข้ากับฐานข้อมูลองค์กรผ่าน LDAP6 ให้กับ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถใช้บัญชีเดิมขององค์กรเข้าสู่ระบบ LMS และระบบอื่นขององค์กรได้ โดยไม่ต้องสร้างบัญชีใหม่ ช่วยลดภาระของการดูแลระบบอีกด้วย

ด้วยเหตุนี้ทำให้ WOW ได้รับความไว้ใจจากองค์รชั้นนำในการเชื่อมต่อ WOW LMS เข้ากับเซิร์ฟเวอร์องค์กร ตัวอย่างเช่น S&P ที่เลือกใช้ WOW LMS เชื่อมข้อมูลพนักงานจากเซิร์ฟเวอร์องค์กรเข้าสู่ระบบอบรมโดยอัตโนมัติ ทำให้บุคลากรเข้าถึงเนื้อหาการอบรมได้เลย

หากคุณสนใจ และพร้อมที่จะยกระดับการอมรมพนักงานไปอีกขั้น

คุณสามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ของเราเพื่อนัดการ Demo

หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ผ่าน LINE

รายละเอียดเพิ่มเติม

แหล่งอ้างอิง

1 2 3 4 5 6 7 8 9

อยากทำเว็บไซต์ธุรกิจที่ช่วยสร้างยอดขายได้จริง ปรึกษา WOW ฟรีที่นี่

รับบทความใหม่ ไปอ่านก่อนใครไหม?

ทำธุรกิจออนไลน์ด้วยความรู้อัปเดต เข้าใจง่าย ได้ยอดขายดีจริงๆ กันดีกว่า!

บทความน่าอ่านในหมวดเดียวกัน

why-inbound-marketing-important
Uncategorized

Inbound Marketing สำคัญอย่างไร ทำไมแบรนด์ยุคใหม่เลือกใช้

นับตั้งแต่โซเชียลมีเดียถือกำเนิดขึ้นและกลายเป็นโลกอีกใบให้ประชากรจากทั่วโลกได้ติดต่อกัน ส่งผลให้แบรนด์ต่างๆ จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนวิธีการทำตลาดจากเดิมที่แบรนด์ทำโฆษณาเพื่อโปรโมตสินค้าอย่างเดียว มาเป็นการโฆษณาและสร้างคอนเทนต์เพื่อดึงกลุ่มเป้าหมายให้หันมาสนใจแบรนด์ไปด้วย ส่งผลให้ Inbound Marketing กลายเป็นการตลาดที่แบรนด์เลือกใช้ ในบทความนี้ เราจะไปดูกันว่า Inbound Marketing มีความสำคัญอย่างไรจึงถูกนำมาใช้ในการทำตลาด Inbound Marketing คืออะไร ก่อนที่เราจะไปรู้ความสำคัญ เราจะมาทำความรู้จักกับ Inbound Marketing ซึ่งก็คือ การตลาดแบบดึงดูด ที่แบรนด์จะต้องนำเสนอข้อมูลที่มีคุณค่าออกไปเพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายที่แบรนด์อยากให้มาสนใจสินค้า และเมื่อเกิดความสนใจแล้ว แบรนด์ก็ต้องโน้มน้าวใจให้กลุ่มเป้าหมายซื้อสินค้าและกลายเป็นลูกค้าของแบรนด์ต่อไป

outbound-inbound-marketing-difference
Marketing

เปรียบเทียบความแตกต่าง Outbound กับ Inbound Marketing

ไม่ว่าคุณจะเป็นนักการตลาดที่เคยทำการตลาดด้วยวิธีใดก็ตาม เชื่อว่าต้องเคยทำการตลาดด้วยวิธีที่เรียกว่า Outbound Marketing และ Inbound Marketing มาแล้ว ซึ่งการทำการตลาดทั้งสองวิธีนี้แม้จะมีเป้าหมายเดียวกันคือการทำให้ลูกค้ารู้จักทั้งแบรนด์และสินค้า แต่กลับมีวิธีการที่แตกต่างกันและยังส่งผลถึงลูกค้าไม่เหมือนกันอีกด้วย ในบทความนี้ เราจะไปดูกันว่า Outbound Marketing และ Inbound Marketing คืออะไร และมีความแตกต่างกันตรงไหน  Outbound Marketing คืออะไร เราจะเริ่มกันที่ Outbound Marketing