Onboarding และ Orientation ความแตกต่างและความสำคัญ

“Onboarding” และ “Orientation” มักถูกใช้สลับกันไปมาจนทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นสิ่งเดียวกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ทั้งสองคำมีความหมายและขอบเขตที่แตกต่างกัน บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจความแตกต่างระหว่าง Onboarding และ Orientation รวมถึงบทบาทที่แตกต่างกันแต่เติมเต็มซึ่งกันและกันในการต้อนรับพนักงานใหม่สู่องค์กร

Orientation คืออะไร?

Orientation หรือการปฐมนิเทศ คือ กิจกรรมหรือโปรแกรมระยะสั้น ที่มักจัดขึ้นในวันแรกหรือสัปดาห์แรกของการทำงาน โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อแนะนำพนักงานใหม่กับองค์กรในภาพรวม

ลักษณะสำคัญของ Orientation

  1. ระยะเวลาสั้น – มักใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงถึงไม่กี่วัน
  2. เน้นการให้ข้อมูลพื้นฐาน – แนะนำประวัติองค์กร โครงสร้าง นโยบาย และกฎระเบียบ
  3. เป็นการสื่อสารทางเดียว – มักเป็นการให้ข้อมูลจากองค์กรสู่พนักงานใหม่
  4. เน้นกระบวนการทางธุรการ – การกรอกเอกสาร การลงทะเบียนระบบต่างๆ
  5. จัดทำเป็นกลุ่ม – มักจัดให้กับพนักงานใหม่หลายคนพร้อมกัน
  6. เน้นที่องค์กรมากกว่าบุคคล – ให้ข้อมูลทั่วไปที่ทุกคนควรรู้

หากคุณต้องการทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Onboarding ก่อน สามารถอ่าน Onboarding คืออะไร

ความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง Orientation และ Onboarding

เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้น เรามาดูตารางเปรียบเทียบความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง Orientation และ Onboarding

ประเด็นOrientationOnboarding
ระยะเวลาวันเดียวถึงสัปดาห์แรก3 เดือนถึง 1 ปีหรือมากกว่า
วัตถุประสงค์หลักให้ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับองค์กรทำให้พนักงานเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรและประสบความสำเร็จในบทบาท
ขอบเขตเนื้อหากว้างแต่ไม่ลึกทั้งกว้างและลึก เฉพาะเจาะจงตามตำแหน่ง
รูปแบบเป็นทางการ มีโครงสร้างชัดเจนผสมผสาน ทั้งเป็นทางการและไม่เป็นทางการ
ผู้รับผิดชอบหลักฝ่ายทรัพยากรบุคคลทั้งฝ่ายทรัพยากรบุคคล ผู้จัดการ ทีมงาน และพี่เลี้ยง
การวัดผลการเข้าร่วมและความเข้าใจเบื้องต้นผลการปฏิบัติงาน ความผูกพัน และการรักษาพนักงาน
ความถี่ของการติดตามน้อย หรือครั้งเดียวสม่ำเสมอและต่อเนื่อง
การมีส่วนร่วมของพนักงานจำกัด ส่วนใหญ่เป็นผู้รับฟังสูง ทั้งการแลกเปลี่ยนและลงมือปฏิบัติ

จะเห็นได้ว่า Orientation เป็นเพียงส่วนหนึ่งของกระบวนการ Onboarding ที่ครอบคลุมกว้างและลึกกว่ามาก



ตัวอย่างกิจกรรมใน Orientation

Orientation มักประกอบด้วยกิจกรรมและเนื้อหาต่อไปนี้

  1. การต้อนรับและแนะนำองค์กร
    • ประวัติความเป็นมา วิสัยทัศน์ พันธกิจ และค่านิยม
    • โครงสร้างองค์กรและสายการบังคับบัญชา
    • แนะนำผู้บริหารและทีมผู้นำ
  2. นโยบายและกฎระเบียบ
    • นโยบายการทำงาน เวลาทำงาน และการลา
    • ข้อกำหนดด้านความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัย
    • จรรยาบรรณและนโยบายด้านจริยธรรม
  3. ข้อมูลด้านผลประโยชน์และสวัสดิการ
    • แผนประกันสุขภาพและประกันชีวิต
    • แผนการออมเงินและบำนาญ
    • สวัสดิการและสิทธิประโยชน์อื่นๆ
  4. กระบวนการทางธุรการ
    • การกรอกเอกสารสำคัญ
    • การตั้งค่าระบบและบัญชีผู้ใช้
    • การรับอุปกรณ์และเครื่องใช้สำนักงาน
  5. การเยี่ยมชมสถานที่ทำงาน
    • การแนะนำพื้นที่ทำงานและสิ่งอำนวยความสะดวก
    • ระบบความปลอดภัยและการเข้าออก
    • สถานที่สำคัญในองค์กร

ตัวอย่างกิจกรรมใน Onboarding

Onboarding มีความครอบคลุมมากกว่าและมักรวมถึงกิจกรรมต่อไปนี้

  1. การอบรมเฉพาะตำแหน่ง
    • การฝึกอบรมเกี่ยวกับระบบและเครื่องมือที่ใช้ในการทำงาน
    • การพัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับบทบาท
    • การเรียนรู้กระบวนการและขั้นตอนการทำงาน
  2. การสร้างความสัมพันธ์
    • การจับคู่กับพี่เลี้ยง (Buddy) หรือโค้ช
    • การแนะนำให้รู้จักกับทีมและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลัก
    • กิจกรรมสร้างทีมและการสร้างเครือข่าย
  3. การวางแผนเป้าหมายและความคาดหวัง
    • การกำหนดเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาว
    • การทำความเข้าใจตัวชี้วัดผลงานและการประเมินผล
    • การวางแผนการพัฒนาส่วนบุคคล
  4. การติดตามและให้ข้อมูลย้อนกลับ
    • การประชุมติดตามผลเป็นประจำ
    • การประเมินความก้าวหน้าและปรับปรุง
    • การให้ข้อมูลย้อนกลับและการสอนงาน
  5. การเรียนรู้วัฒนธรรมองค์กร
    • การเข้าร่วมกิจกรรมและงานเลี้ยงขององค์กร
    • การเรียนรู้มารยาทและแนวปฏิบัติที่ไม่เป็นทางการ
    • การทำความเข้าใจกับค่านิยมและพฤติกรรมที่คาดหวัง

ทำไม Orientation และ Onboarding จึงสำคัญต่อองค์กร

ทั้ง Orientation และ Onboarding มีความสำคัญต่อความสำเร็จขององค์กรในระยะยาว ต่อไปนี้คือประโยชน์ที่องค์กรจะได้รับจากการดำเนินการทั้งสองอย่างอย่างมีประสิทธิภาพ

ประโยชน์ของ Orientation ที่มีประสิทธิภาพ

  1. สร้างความประทับใจแรกที่ดี
    • การ Orientation ที่จัดอย่างมืออาชีพสื่อถึงความเป็นมืออาชีพขององค์กร
    • ช่วยให้พนักงานใหม่รู้สึกว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรตั้งแต่วันแรก
  2. ลดความวิตกกังวลและความเครียด
    • ข้อมูลที่ชัดเจนช่วยลดความไม่แน่นอนและความเครียดในการเริ่มงานใหม่
    • ทำให้พนักงานใหม่รู้สึกมั่นใจและมีความพร้อมมากขึ้น
  3. ประหยัดเวลาและลดความผิดพลาด
    • การให้ข้อมูลที่ถูกต้องตั้งแต่ต้นช่วยลดคำถามและความสับสนในภายหลัง
    • การทำเอกสารและกระบวนการที่ถูกต้องตั้งแต่เริ่มต้นช่วยป้องกันปัญหาในอนาคต
  4. สร้างความเข้าใจในภาพรวม
    • ทำให้พนักงานเข้าใจว่าองค์กรทำอะไร ทำไม และทำอย่างไร
    • ช่วยให้เห็นภาพว่าบทบาทของตนเองสอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กรอย่างไร

ประโยชน์ของ Onboarding ที่มีประสิทธิภาพ

  1. เพิ่มอัตราการรักษาพนักงาน
    • การศึกษาแสดงให้เห็นว่าพนักงานที่ผ่านการ Onboarding ที่ดีมีแนวโน้มที่จะอยู่กับองค์กรนานกว่า
    • ช่วยลดต้นทุนในการสรรหาและฝึกอบรมพนักงานใหม่
  2. เร่งความเร็วในการสร้างผลิตภาพ
    • พนักงานที่ได้รับการ Onboarding ที่ดีจะเริ่มสร้างผลงานได้เร็วกว่า
    • การเรียนรู้ที่เป็นระบบช่วยลดเวลาที่ใช้ในการเรียนรู้งาน
  3. สร้างความผูกพันและความพึงพอใจ
    • การ Onboarding ที่ดีช่วยสร้างความผูกพันต่อองค์กรตั้งแต่เริ่มต้น
    • พนักงานที่มีความผูกพันมีแนวโน้มที่จะมีความพึงพอใจและผลิตภาพที่สูงกว่า
  4. เสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กร
    • การ Onboarding ช่วยถ่ายทอดและเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง
    • ช่วยให้พนักงานใหม่ซึมซับค่านิยมและพฤติกรรมที่พึงประสงค์
  5. ลดความเสี่ยงและเพิ่มความเป็นมาตรฐาน
    • การ Onboarding ที่เป็นระบบช่วยให้มั่นใจว่าพนักงานทุกคนได้รับข้อมูลและการฝึกอบรมที่จำเป็น
    • ช่วยลดความเสี่ยงจากการไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบหรือขั้นตอนที่สำคัญ

Onboarding - LMS


วิธีการบูรณาการ Orientation และ Onboarding ให้มีประสิทธิภาพ

การบูรณาการ Orientation และ Onboarding ให้ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ ต่อไปนี้คือวิธีการที่องค์กรสามารถทำได้:

1. วางแผนที่ครอบคลุมและต่อเนื่อง

สร้างแผน Onboarding ที่ครอบคลุมตั้งแต่การตอบรับข้อเสนองานไปจนถึง 1 ปีแรกของการทำงาน โดยให้ Orientation เป็นส่วนหนึ่งของแผนนี้ แผนควรมีลำดับขั้นตอนที่ชัดเจน กำหนดการ และผู้รับผิดชอบในแต่ละขั้นตอน

2. กำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน

กำหนดว่าต้องการให้พนักงานใหม่เรียนรู้อะไร เมื่อไร และอย่างไร แบ่งเป้าหมายเป็นระยะเวลา เช่น วันแรก สัปดาห์แรก เดือนแรก 90 วัน และ 1 ปี

3. สร้างความสมดุลระหว่างข้อมูลและการปฏิบัติ

หลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลมากเกินไปในครั้งเดียว แบ่งเนื้อหาออกเป็นส่วนๆ และผสมผสานระหว่างการให้ข้อมูลกับโอกาสในการนำไปปฏิบัติจริง ช่วยให้พนักงานสามารถซึมซับและประยุกต์ใช้ความรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4. ใช้วิธีการที่หลากหลาย

ผสมผสานวิธีการเรียนรู้ที่หลากหลาย เช่น การบรรยาย การสนทนา การลงมือปฏิบัติ วิดีโอ เกม และการเรียนรู้ออนไลน์ การใช้ระบบ LMS สามารถช่วยในการผสมผสานวิธีการเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5. มอบหมายผู้รับผิดชอบที่ชัดเจน

กำหนดบทบาทและความรับผิดชอบที่ชัดเจนสำหรับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ผู้จัดการ พี่เลี้ยง และตัวพนักงานใหม่เอง ความรับผิดชอบที่ชัดเจนช่วยให้มั่นใจว่าทุกขั้นตอนจะได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม

6. ใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อทำให้กระบวนการมีประสิทธิภาพมากขึ้น ระบบ LMS สามารถช่วยในการจัดการเนื้อหา การติดตามความก้าวหน้า การประเมินผล และการสื่อสาร ทำให้ประหยัดเวลาและทรัพยากร

7. สร้างประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัว

ปรับแต่งประสบการณ์ให้เหมาะกับตำแหน่งงาน ระดับประสบการณ์ และความต้องการเฉพาะของพนักงานแต่ละคน ความเป็นส่วนตัวทำให้พนักงานรู้สึกว่าได้รับความใส่ใจและเห็นคุณค่า

8. เก็บข้อมูลย้อนกลับและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

รวบรวมข้อมูลย้อนกลับจากพนักงานใหม่ ผู้จัดการ และผู้ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เพื่อระบุจุดแข็งและจุดที่ต้องปรับปรุง นำข้อมูลย้อนกลับนี้มาใช้ในการปรับปรุงกระบวนการอย่างต่อเนื่อง

สรุป

องค์กรที่ประสบความสำเร็จต้องไม่มองทั้งสองกระบวนการแยกจากกัน แต่ต้องบูรณาการให้เป็นระบบที่เสริมซึ่งกันและกัน การใช้เทคโนโลยีอย่างระบบ LMS ร่วมกับการวางแผนที่ดี การมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย และการปรับแต่งให้เหมาะกับบริบทขององค์กร จะช่วยสร้างประสบการณ์การเริ่มงานที่ประทับใจให้กับพนักงานใหม่

ในท้ายที่สุด ไม่ว่าจะเป็น Orientation หรือ Onboarding ต่างมีเป้าหมายร่วมกัน คือการช่วยให้พนักงานใหม่ปรับตัว เรียนรู้ และพร้อมที่จะเติบโตไปกับองค์กร เมื่อทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งพนักงานและองค์กรจะได้ประโยชน์ร่วมกันในระยะยาว ทั้งในแง่ของผลิตภาพ ความผูกพัน และความสำเร็จโดยรวม

 

อยากทำเว็บไซต์ธุรกิจที่ช่วยสร้างยอดขายได้จริง ปรึกษา WOW ฟรีที่นี่

รับบทความใหม่ ไปอ่านก่อนใครไหม?

ทำธุรกิจออนไลน์ด้วยความรู้อัปเดต เข้าใจง่าย ได้ยอดขายดีจริงๆ กันดีกว่า!

บทความน่าอ่านในหมวดเดียวกัน

Uncategorized

LMS กับกระบวนการ Onboarding

ทุกวันนี้เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในทุกด้านของการทำงาน กระบวนการ Onboarding ก็ไม่เป็นข้อยกเว้น องค์กรที่ต้องการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับพนักงานใหม่ พร้อมทั้งลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ กำลังหันมาใช้เทคโนโลยี Learning Management System (LMS) เพื่อยกระดับกระบวนการ Onboarding ให้ตอบโจทย์ความต้องการในยุคดิจิทัล บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจว่าระบบ LMS สามารถปฏิวัติวิธีการ Onboarding ในองค์กรของคุณได้อย่างไร พร้อมแนวทางการเลือกและใช้งานระบบที่เหมาะสมกับองค์กร เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Onboarding คืออะไร ความหมายและความสำคัญที่องค์กรควรทราบ และ

Uncategorized

การสร้างโปรแกรม Onboarding สมบูรณ์ ขั้นตอน ตัวอย่าง และเทมเพลต

ขั้นตอนการสร้างโปรแกรม Onboarding ที่ประสบความสำเร็จ การ Onboarding พนักงานใหม่อย่างมีประสิทธิภาพเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จขององค์กรในระยะยาว กระบวนการ Onboarding ที่ออกแบบมาอย่างดีไม่เพียงช่วยให้พนักงานใหม่เรียนรู้งานได้เร็วขึ้น แต่ยังช่วยเพิ่มอัตราการรักษาพนักงาน สร้างความผูกพันต่อองค์กร และส่งเสริมวัฒนธรรมการทำงานที่แข็งแกร่ง บทความนี้จะแนะนำ ขั้นตอนสำคัญในการสร้างโปรแกรม Onboarding ที่ประสบความสำเร็จ พร้อมตัวอย่าง Onboarding Program ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริง เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Onboarding คืออะไร: ความหมายและความสำคัญที่องค์กรควรทราบ และ