คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมแบรนด์ดังๆ ถึงทุ่มเทเวลาและทรัพยากรมากมายไปกับการทำบล็อก?
หรือบางทีคุณอาจกำลังคิดว่า…
“ธุรกิจของเราเล็กเกินไป ยังไม่จำเป็นต้องทำบล็อกหรอก”
“ลูกค้าของเราไม่น่าจะสนใจอ่านบล็อก”
“เรามีโซเชียลมีเดียแล้ว บล็อกคงไม่สำคัญเท่าไหร่”
“ไม่มีเวลาพอจะมาทำบล็อกหรอก มีงานอื่นที่สำคัญกว่า”
ถ้าคุณกำลังคิดแบบนี้อยู่ บทความนี้มีไว้สำหรับคุณโดยเฉพาะ
15 เหตุผลต่อไปนี้จะเปิดมุมมองใหม่ให้คุณเห็นว่า ทำไมแบรนด์ระดับโลกถึงให้ความสำคัญกับการทำบล็อก และทำไมธุรกิจของคุณไม่ควรรอช้าที่จะเริ่มต้นทำบล็อกตั้งแต่วันนี้
1. Blog สร้างลูกค้าเป้าหมายได้มากกว่าการยิงโฆษณาถึง 3 เท่า
รู้ไหมว่าการทำบล็อกให้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่งแค่ไหน? ลองนึกภาพดูว่าคุณมีบล็อกที่เขียนดี มีเนื้อหาที่ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย แค่นี้คุณก็มีโอกาสได้ลูกค้ามากกว่าการลงโฆษณาถึง 3 เท่า! แล้วรู้ไหมว่าอะไรเจ๋งกว่านั้น? แทนที่จะต้องทุ่มเงินมหาศาลไปกับการซื้อโฆษณา คุณแค่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ผ่านปลายนิ้วบนแป้นพิมพ์ สร้างเนื้อหาดีๆ ที่มีคุณค่า ก็สามารถดึงดูดลูกค้าได้อย่างต่อเนื่องแล้ว
ลองคิดตามนะ… โฆษณาจะหยุดทำงานทันทีที่คุณหยุดจ่ายเงิน แต่บล็อกที่ดีจะทำงานให้คุณไปอีกนาน แม้คุณจะเขียนมันเสร็จไปนานแล้วก็ตาม
2. บล็อกช่วยดึงคนเข้าเว็บไซต์ได้หลายทาง
รู้ไหมว่าทำไมเว็บใหญ่ๆ ถึงชอบทำบล็อก? เพราะ blog เปรียบเสมือนแม่เหล็กดึงดูดคนเข้าเว็บได้จากหลายช่องทาง:
จากการแชร์ใน Social Media
– เพื่อนแชร์ต่อให้เพื่อน
– คนอ่านกดแชร์ในเฟซบุ๊ก
– มีคนเอาไปแชร์ในไลน์กลุ่ม
จากการค้นหาใน Google
– คนค้นเจอบล็อกเราใน Google
– ติดอันดับการค้นหาได้นานๆ
– ประหยัด ไม่ต้องจ่ายเงินโฆษณา
ที่สำคัญคือ… เมื่อคนอ่านเจอเนื้อหาดีๆ พวกเขาจะจำเว็บเราได้ และกลับมาเยี่ยมชมอีก เหมือนร้านอาหารที่อร่อย ลูกค้าก็อยากกลับมากินซ้ำ! ยิ่งคุณเขียนบล็อกดีๆ บ่อยๆ ก็เหมือนมีพนักงานขายที่ทำงานให้คุณตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันลา ไม่ต้องจ่ายเงินเดือน
3. Blog ช่วยให้คนเจอธุรกิจคุณใน Google ได้ง่ายขึ้น 4 เท่า!
ลองนึกภาพว่า… เว็บไซต์ของคุณเป็นเหมือนร้านค้า ถ้าไม่มี Blog ก็เหมือนร้านที่ซ่อนอยู่ในซอยเล็กๆ แต่ถ้ามีเนื้อหาดีๆใน Blog ก็เหมือนย้ายร้านมาอยู่ติดถนนใหญ่ที่คนเดินผ่านไปผ่านมาเห็นได้ง่าย!
ทำไม Blog ถึงช่วยได้ขนาดนั้น?
– คนค้นหาในกูเกิลเจอเว็บคุณได้ง่ายขึ้น 4 เท่า
– ติดหน้าแรก Google ได้นานๆ ไม่ใช่แค่วันสองวัน
**ได้ Backlinks เพิ่มขึ้น!**
เว็บอื่นๆ มักจะชอบเอาลิงก์ Blog ดีๆ ไปแชร์ต่อ (เราเรียกว่า “Backlinks”) ยิ่งมี Backlinks เยอะ Google ก็ยิ่งเห็นว่าเว็บเราน่าเชื่อถือ เหมือนร้านอาหารที่มีคนรีวิวเยอะๆ ใครๆ ก็อยากลองไปกิน!
**สรุปง่ายๆ:**
ยิ่งมี Blog ดี → ยิ่งได้ Backlinks → Google ยิ่งชอบ → คนยิ่งเจอเว็บเราง่าย → ธุรกิจยิ่งโต
4. 52% ของนักการตลาดเห็นว่าการทำ Blog เป็นกลยุทธ์การตลาดที่สำคัญที่สุด
ในการสำรวจการตลาดเชิง Content จาก Content Marketer 2,562 คนทั่วโลก พบว่า 52% ระบุว่าการทำบล็อกเป็นกลยุทธ์การตลาดที่สำคัญที่สุด ที่น่าสนใจคือมีเพียง 40% ของ Content Marketing ที่มองว่า Email Marketing และ Social Media มีความสำคัญ แล้ววิดีโอล่ะ? มีเพียง 30% ที่ลงคะแนนว่า “สำคัญ” ดังนั้นคุณจะเชื่อกระแสวิดีโอก็ได้ แต่อย่าทิ้งการทำ Blog
5. Blog ช่วยสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง
ลองจินตนาการว่า Brand ของคุณเป็นเหมือนร้านอาหารเล็กๆ ร้านหนึ่ง… ทุกวันคุณปรุงอาหารด้วยใจ เลือกวัตถุดิบชั้นดี และใส่ใจทุกรายละเอียด แต่มีเพียงลูกค้าที่เข้ามาในร้านเท่านั้นที่ได้สัมผัสความพิเศษนี้ แล้วจะดีแค่ไหน ถ้าคุณสามารถเล่าเรื่องราวเหล่านี้ให้คนที่ยังไม่เคยมาร้านได้รู้จัก?
นี่แหละคือพลังของการทำ Blog … เมื่อคุณเริ่มเขียน คุณจะได้โอกาสบอกเล่าทุกเรื่องราวที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นที่มาของสูตรอาหารจานพิเศษ เคล็ดลับการเลือกวัตถุดิบ หรือแม้แต่เรื่องราวของทีมงานในครัว ทุกบทความเปรียบเสมือนบทสนทนาเล็กๆ ระหว่างคุณกับผู้อ่าน ที่ค่อยๆ สร้างความผูกพัน ความเข้าใจ และความไว้วางใจ
เวลาใครสักคนอ่าน Blog ของคุณ พวกเขาไม่ได้แค่ได้ข้อมูล แต่ยังได้สัมผัสถึงความใส่ใจในรายละเอียด ความหลงใหลในสิ่งที่ทำ และประสบการณ์ที่คุณสั่งสมมา เหมือนกับการที่พวกเขาได้นั่งคุยกับเชฟที่โต๊ะอาหาร ได้ฟังเรื่องราว ได้เข้าใจที่มาที่ไป และเมื่อพวกเขาประทับใจ ก็มักจะแชร์บทความของคุณต่อ เหมือนกับการแนะนำร้านอาหารดีๆ ให้เพื่อน เป็นการบอกต่อที่มีพลังและน่าเชื่อถือที่สุด Blog จึงไม่ใช่แค่พื้นที่เขียนข้อความ แต่เป็นพื้นที่ที่คุณได้เล่าเรื่องที่คุณภูมิใจ แบ่งปันความรู้ที่มี และสร้างความประทับใจที่ยาวนาน นี่คือวิธีที่ Blog ช่วยสร้าง Brand ให้แข็งแกร่งอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด ผ่านการเล่าเรื่อง การแบ่งปัน และการสร้างความสัมพันธ์ที่แท้จริงกับผู้อ่านของคุณ
6. บทความจาก Blog ช่วยสร้าง Content Machine ที่ยั่งยืน
มีเหตุผลที่บล็อกอย่าง Hubspot ได้รับการเข้าชมมากกว่าหนึ่งล้านครั้งผ่านผลการค้นหาแบบ Organic เพียงอย่างเดียว พวกเขาลงทุนกับการทำ Blog และสร้าง Content library ที่ขับเคลื่อนด้วย SEO จนตอนนี้ Blog ทำงานให้พวกเขาแม้ในยามหลับ เพื่อรักษาความสดใหม่ของเนื้อหาในสายตาผู้อ่านและ Google คุณควร:
– ใช้ Google Analytics เพื่อค้นหาโพสต์ที่กำลังสูญเสียอันดับและทราฟฟิกจากการ Search
– อัปเดตโพสต์เหล่านี้ด้วยรูปภาพใหม่ (รวมถึง alt tags) เพิ่มเนื้อหา 100-500 คำ และแก้ไขหรือลบส่วนที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ทันสมัยแล้วทิ้งไป
อ่าน : 70 ไอเดียเขียนบล็อก: หัวข้อบล็อกที่น่าสนใจสำหรับปี 2024
7. บล็อกเป็นพื้นที่แสดงความจริงใจและความโปร่งใสของ Brand หรือธุรกิจของคุณ
ปัจจุบัน ผู้บริโภคต้องการความจริงใจ Blog คือพื้นที่ที่คุณสามารถแสดงตัวตนที่แท้จริงของแบรนด์ได้อย่างเต็มที่ เปรียบเสมือนหน้าต่างบานใหญ่ที่เปิดให้ลูกค้าได้เห็นการทำงานและแนวคิดภายในองค์กรของคุณหลาย Brand ที่ประสบความสำเร็จมักใช้ Blog เป็นช่องทางแบ่งปันเรื่องราวที่จริงใจ เช่น:
– เบื้องหลังการพัฒนาผลิตภัณฑ์
– บทเรียนจากความผิดพลาดที่ผ่านมา
– วิธีแก้ไขปัญหาให้ลูกค้า
– คุณค่าและอุดมการณ์ของแบรนด์
โดยเฉพาะธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้น การเล่าเรื่องราวตั้งแต่วันแรกผ่านบล็อกจะช่วยสร้างความผูกพันกับลูกค้า พวกเขาจะรู้สึกเหมือนได้เติบโตไปพร้อมกับคุณ ได้เห็นทั้งความสำเร็จและความท้าทาย ความผิดพลาดหรืออุปสรรคที่เกิดขึ้น เมื่อนำมาแบ่งปันอย่างตรงไปตรงมา กลับกลายเป็นโอกาสในการสร้างความเข้าใจและความเชื่อใจ ลูกค้าจะเห็นว่าคุณกล้ายอมรับข้อบกพร่อง และมุ่งมั่นที่จะพัฒนาให้ดีขึ้น
ท้ายที่สุด ความโปร่งใสที่แสดงผ่าน Blog จะกลายเป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า เพราะพวกเขาจะเชื่อใจแบรนด์ที่กล้าเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง มากกว่าแบรนด์ที่แสดงแต่ด้านดีเพียงอย่างเดียว
8. บล็อกเล่าเรื่องราวที่มาที่ไปของ Brand
ลองนึกถึง Brand เหมือนตัวละครในนิยายสักเรื่อง… ทุกตัวละครย่อมมีที่มาที่ไป มีแรงบันดาลใจ มีเป้าหมายในชีวิต และมีเหตุผลที่ทำสิ่งต่างๆ Brand ของคุณก็เช่นกัน เบื้องหลังผลิตภัณฑ์หรือบริการทุกอย่าง มักซ่อนเรื่องราวที่น่าสนใจไว้เสมอ อาจเป็นความทรงจำวันที่คุณเจอปัญหาแล้วคิดว่า “ต้องมีวิธีที่ดีกว่านี้” หรือช่วงเวลาที่คุณเห็นคนอื่นกำลังต่อสู้กับความยากลำบาก แล้วคุณตัดสินใจว่า “ฉันจะช่วยแก้ปัญหานี้”
Blog เปรียบเสมือนสมุดบันทึกที่คุณได้เล่าเรื่องราวเหล่านี้ ผ่านหลากหลายมุมมอง… บางครั้งอาจเป็นเสียงของพนักงานที่อยู่เบื้องหลังการพัฒนาผลิตภัณฑ์ บางทีก็เป็นประสบการณ์ของลูกค้าที่ชีวิตเปลี่ยนไปหลังได้ใช้สินค้าของคุณ หรือแม้แต่ความฝันของผู้ก่อตั้งที่อยากเห็นโลกเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น เวลาที่ใครสักคนอ่าน Blog ของคุณ เขาไม่ได้แค่เห็นว่าสินค้าของคุณทำอะไรได้บ้าง แต่ยังเข้าใจว่าทำไมคุณถึงทำสิ่งนี้ ทำไมคุณถึงใส่ใจในทุกรายละเอียด และทำไมคุณถึงตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้พัฒนาสิ่งใหม่ๆ เหมือนกับการที่คุณชวนผู้อ่านนั่งจิบกาแฟด้วยกัน แล้วค่อยๆ เล่าให้ฟังว่า “นี่คือสิ่งที่เราเชื่อ นี่คือสิ่งที่เราฝัน และนี่คือเหตุผลที่เราทำทุกอย่างเพื่อให้มันเกิดขึ้นจริง” และบ่อยครั้ง เมื่อผู้อ่านได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของแบรนด์ พวกเขาก็มักจะพบว่าตัวเองก็มีความฝันและความเชื่อคล้ายๆ กัน นั่นแหละ คือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกว่าแค่การซื้อขาย แต่เป็นการร่วมเดินทางไปด้วยกัน เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ทั้งคุณและพวกเขาเชื่อว่าควรจะเกิดขึ้น
9. ทำไม Google ถึงหลงรักบล็อกที่มีเนื้อหาเข้มข้น
คุณเคยสังเกตไหมว่า เวลาค้นหาข้อมูลใน Google มักจะเจอบทความยาวๆ ที่อธิบายรายละเอียดแบบครบถ้วนขึ้นมาอยู่อันดับต้นๆ เสมอ? นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นเพราะ Google เข้าใจพฤติกรรมของผู้อ่านเป็นอย่างดี เปรียบเหมือนการเลือกอ่านหนังสือสักเล่ม… เราย่อมเชื่อถือหนังสือที่อธิบายเรื่องราวอย่างละเอียดมากกว่าแผ่นพับสั้นๆ ที่แค่บอกข้อมูลคร่าวๆ Google ก็คิดเช่นเดียวกัน เมื่อเห็นบล็อกที่ทุ่มเทเขียนเนื้อหาเชิงลึก อธิบายทุกแง่มุม Google จะมองว่านี่คือแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ และเมื่อผู้อ่านเจอบทความที่ให้ข้อมูลครบถ้วน พวกเขาก็มักจะใช้เวลาอ่านนานขึ้น ไม่ต่างจากการนั่งดื่มด่ำกับหนังสือเล่มโปรด Google สังเกตเห็นพฤติกรรมนี้ และมองว่านี่คือสัญญาณที่บ่งบอกว่าเนื้อหานั้นมีคุณค่า มีประโยชน์ จึงยิ่งให้คะแนนความน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้น Blogger จึงค่อยๆ ปรับตัว หันมาใส่ใจกับการเขียนบทความที่มีเนื้อหาสมบูรณ์มากขึ้น แทนที่จะแค่เขียนสั้นๆ ผ่านๆ เหมือนกับการเปลี่ยนจากการเล่าเรื่องแบบนิทานก่อนนอน มาเป็นการเขียนนวนิยายที่มีรายละเอียดชวนติดตาม ให้ทั้งความรู้และความเพลิดเพลิน แต่สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่ความยาว… แต่เป็นคุณภาพของเนื้อหาที่จะทำให้ผู้อ่านได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง เหมือนการปรุงอาหารจานพิเศษ ที่ต้องใส่ใจทุกขั้นตอน เลือกส่วนผสมดีๆ และปรุงด้วยใจ เพื่อให้ทุกคำที่เขียนมีคุณค่าต่อผู้อ่าน
10. เสน่ห์ของบทความสั้นที่ไม่ควรมองข้าม
ประโยคที่ว่า “น้อยแต่มาก” ไหม? ในโลกของการเขียนบล็อก คำพูดนี้ยังใช้ได้ดี โดยเฉพาะในธุรกิจที่เข้าถึงลูกค้าได้โดยตรง ลูกค้าของคุณอาจกำลังเร่งรีบ ต้องการข้อมูลที่เข้าใจได้ทันที เหมือนจานอาหารที่แม้เสิร์ฟไม่เยอะ แต่รสชาติจัดจ้าน อิ่มพอดี เหมือนการแวะซื้อกาแฟในตอนเช้า – รวดเร็ว สดชื่น และได้สิ่งที่ต้องการ บล็อกก็เช่นกัน ไม่จำเป็นต้องยาวเสมอไป ถ้าเขียนได้กระชับและตรงประเด็น บทความสั้น 500 คำที่เขียนดี อาจมีพลังมากกว่าบทความยาวที่วกวนไม่จบ
11. สรุปให้กระชับ อ่านง่าย ใครก็ชอบ
คุณเคยเจอบทความยาวๆ แล้วรู้สึกท้อใจไหม? เหมือนเปิดหนังสือหนาๆ แล้วอยากรู้แค่ใจความสำคัญ นี่แหละที่มาของ “TLDR” (Too Long Didn’t Read หรือ ยาวไป ไม่อ่าน) ที่กำลังฮิตในโลกออนไลน์ เหมือนการดูหนัง บางคนชอบดูตัวอย่างหนังก่อนตัดสินใจดูเรื่องเต็ม TLDR ก็เหมือนตัวอย่างหนังที่บอกเนื้อเรื่องสำคัญในเวลาไม่กี่นาที วิธีนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2003 จากเด็กมัธยมที่ขี้เกียจอ่านข้อความยาวๆ แต่วันนี้กลับกลายเป็นเทคนิคเขียนบล็อกที่ได้ผลดีเยี่ยม เพราะช่วยทั้งคนอ่านที่เร่งรีบ และช่วยให้กูเกิลเข้าใจเนื้อหาของเราได้ง่ายขึ้น แค่สรุปสั้นๆ ไว้ต้นบทความ คนอ่านก็รู้ทันทีว่าจะได้อะไรจากการอ่าน เหมือนดูเมนูรูปอาหารก่อนสั่ง ทำให้ตัดสินใจได้ว่าอยากอ่านต่อหรือไม่
12. การทำ Blog เป็นกลยุทธ์ระยะยาว
เคยได้ยินไหมว่า “Blog กำลังจะตาย”? แต่ความจริงกลับตรงข้าม… เหมือนต้นไม้ที่ยิ่งปลูกนานยิ่งแข็งแรง Blog ก็เช่นกัน ยิ่งเขียนนาน รากยิ่งหยั่งลึก ลองคิดดู… บทความดีๆ ที่คุณเขียนวันนี้ อาจกลายเป็นแหล่งอ้างอิงที่คนเชื่อถือในอีกหลายปีข้างหน้า เหมือนหนังสือดีๆ ที่คนหยิบมาอ่านซ้ำแล้วซ้ำอีก ยิ่งมีคนแชร์ ยิ่งมีคนลิงก์กลับมา บล็อกของคุณก็จะยิ่งมีค่าขึ้นเรื่อยๆ เปรียบเสมือนการปลูกสวนผลไม้… ต้องดูแลสม่ำเสมอ ใช้เวลากว่าต้นไม้จะออกผล แต่เมื่อถึงเวลา คุณจะมีผลไม้ให้เก็บเกี่ยวไปอีกนาน เช่นเดียวกับบล็อกที่เขียนดี จะสร้างผลตอบแทนให้คุณไปอีกยาวนาน
13. บล็อกสร้างโอกาสให้คนดังช่วยบอกต่อ
เคยคิดไหมว่าทำไมร้านอาหารบางร้านถึงดังเป็นพลุแตก? บ่อยครั้งเป็นเพราะมีบล็อกเกอร์หรือคนดังแวะมาชิม แล้วเอาไปรีวิว แชร์ต่อให้แฟนๆ ของเขาได้เห็น บล็อกของคุณก็เช่นกัน… ถ้าเขียนดี มีเนื้อหาน่าสนใจ ผู้ทรงอิทธิพลในวงการก็อยากหยิบไปแชร์ Influencer เหล่านี้เปรียบเหมือนดีเจวิทยุที่ต้องหาเพลงดีๆ มาเปิดให้ผู้ฟัง พวกเขามองหาเนื้อหาดีๆ อยู่เสมอ ถ้าบล็อกคุณมีข้อมูลที่มีค่า พวกเขาก็ยินดีช่วยบอกต่อ ยิ่งไปกว่านั้น คุณยังเชิญให้ผู้เชี่ยวชาญหรือลูกค้ามาแชร์เรื่องราวในบล็อกของคุณได้ เหมือนเปิดเวทีให้คนเก่งๆ มาแสดงความสามารถ ยิ่งมีหลายเสียง หลายมุมมอง บล็อกของคุณก็ยิ่งน่าสนใจ และมีโอกาสถูกแชร์ต่อมากขึ้น
14. ทำ Blog ไม่แพงอย่างที่คิด แถมคุ้มค่าสุดๆ
ลองเทียบดู… การทำวิดีโอต้องมีกล้อง ไฟ ไมค์ โปรแกรมตัดต่อ และทีมงานหลายคน แต่การทำบล็อก? แค่มีคอมพิวเตอร์เครื่องเดียว ความคิดดีๆ และเวลานั่งเขียน คุณก็สร้างเนื้อหาดีๆ ได้แล้ว เหมือนการทำอาหาร… วิดีโอสอนทำอาหารต้องมีครัวสวยๆ อุปกรณ์ครบครัน แต่การเขียนสูตรอาหารในบล็อก? แค่ถ่ายทอดวิธีทำให้เข้าใจง่าย ใครๆ ก็ทำได้ และที่เจ๋งไปกว่านั้น บล็อกที่เขียนวันนี้ยังเอามาปัดฝุ่น ปรับปรุง แล้วใช้ใหม่ได้เรื่อยๆ เหมือนสูตรอาหารอร่อยที่ส่งต่อกันรุ่นสู่รุ่น ยิ่งใช้ ยิ่งคุ้ม ยิ่งประหยัดเวลาและงบประมาณในระยะยาว
15. Blog เป็นศูนย์รวมทุกเนื้อหาของคุณ
Blog เหมือนบ้านหลังใหญ่ที่พร้อมต้อนรับทุกไอเดีย… คุณอาจมีวิดีโอในยูทูบ รูปสวยๆ ในอินสตาแกรม หรือพอดแคสต์ที่น่าฟัง แต่บล็อกคือที่ที่ทุกอย่างมาอยู่รวมกันได้อย่างลงตัว เหมือนร้านอาหารที่มีทั้งอาหารจานเด็ด ของหวาน และเครื่องดื่ม แต่ทั้งหมดอยู่ในเมนูเล่มเดียวกัน บล็อกก็เป็นเหมือนเมนูที่รวบรวมทุกสิ่งที่คุณอยากนำเสนอ ทำบล็อกให้เป็นเหมือนศูนย์กลาง ที่ผู้อ่านจะได้เห็นทุกแง่มุมของแบรนด์คุณ ไม่ว่าจะเป็นบทความดีๆ ลิงก์ไปยังคลิปวิดีโอ หรือตารางกิจกรรมที่กำลังจะมาถึง ทุกอย่างอยู่ในที่เดียว ง่ายต่อการเข้าถึง
สรุป
Blog คือร้านค้าออนไลน์ที่เปิด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องจ่ายค่าโฆษณา ดึงดูดลูกค้าได้มากกว่าโฆษณาถึง 3 เท่า และช่วยให้คนเจอธุรกิจคุณในกูเกิลได้ง่ายขึ้น 4 เท่า เป็นพื้นที่เล่าเรื่องราวแบรนด์ สร้างความเชื่อใจ และความสัมพันธ์กับลูกค้า เขียนสั้นหรือยาวก็ได้ตามเหมาะสม และนำกลับมาใช้ใหม่ได้เรื่อยๆ ที่สำคัญ บล็อกเป็นศูนย์รวมทุกคอนเทนต์ของคุณ เชื่อมโยงทั้งบทความ วิดีโอ และโซเชียลมีเดีย เหมือนปลูกต้นไม้ ยิ่งดูแลสม่ำเสมอ ยิ่งให้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าในระยะยาว
Source : 15 reasons your content strategy must include blogging